รู้ก่อนซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ 2 รุ่น 50,000 ล้านบาท ดบ.สูง 2.2% เริ่มขาย 25 ส.ค.นี้
จากการที่กระทรวงการคลังเปิดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ 2 รุ่น วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ประกอบด้วย
1. รุ่นวอลเล็ต สบม. ครั้งที่ 2 วงเงินจำหน่าย 5,000 ล้านบาท อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.70% ต่อปี โดยจะจำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถโอนเงินจากพร้อมเพย์ทุกธนาคารเข้าวอลเล็ต เพื่อซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ได้ โดยซื้อได้สูงสุดรายละ 5 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม – 11 กันยายน 2563
2.รุ่นก้าวไปด้วยกัน (Moving Forward) วงเงินจำหน่าย 45,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2.22% ต่อปี จำหน่ายผ่าน 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย โดยสามารถซื้อผ่านธนาคารได้โดยตรงวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อราย โดยไม่จำกัดวงเงินซื้อต่อธนาคาร ซึ่งจะเปิดการจำหน่ายเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 วันที่ 26 สิงหาคม – 3 กันยายน 2563 ให้แก่บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และช่วงที่ 2 วันที่ 4 – 11 กันยายน 2563 จำหน่ายให้แก่บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย และนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด แบบไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง
อย่างไรก็ดี เพื่อให้เข้าใจในผลิตภัณฑ์ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลรายละเอียด เพื่อให้ผู้ลงทุนได้พิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อพันธบัตรออมทรัพย์กระทรวงการคลัง ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ในวันพรุ่งนี้ ( 25 สิงหาคม )
1.อายุพันธบัตร
พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ครั้งที่ 2 รุ่นอายุ 4 ปี (SB248A) – เป็นแบบไร้ใบตราสาร (Scripless) ไม่มีการออกใบพันธบัตรตลอดอายุพันธบัตร
พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น "ก้าวไปด้วยกัน" ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รุ่นอายุ 7 ปี (SB278A) – เป็นแบบไร้ใบตราสาร (Scripless)
2. อัตราดอกเบี้ย (ร้อยละ)
รุ่นอายุ 4 ปี (SB248A) อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 1.70 ต่อปี
รุ่นอายุ 7 ปี (SB278A) อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 2.22 ต่อปี
3. วงเงินจำหน่ายรวม
5,000 ล้านบาท
45,000 ล้านบาท
4. วันที่จำหน่ายทั่วไป
จำหน่ายผ่านวอลเล็ตสะสมบอนด์มั่งคั่ง (วอลเล็ต สบม.) ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2563 จนถึงวันที่ 11 กันยายน 2563
จำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ( ธ.กรุงเทพ , ธ.กรุงไทย , ธ.กสิกรไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์ ) ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2563 จนถึงวันที่ 11 กันยายน 2563
5.ผู้มีสิทธิ์ซื้อในตลาดแรก
บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
ข่าวเกี่ยวข้อง
พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น"วอลเล็ต-ก้าวไปด้วยกัน"คำนวณผลตอบแทนได้ที่นี่
เปิดจองแล้วซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นวอลเล็ต สบม. เช็กที่นี่
ดีเดย์ 25 ส.ค. กรุงไทย พร้อมขาย "พันธบัตรออมทรัพย์" ผ่าน "แอปเป๋าตัง"
คลังเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ 2 รุ่น 50,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยสูง 2.2%
6.วงเงินซื้อ ข้ันต่ำ-ขั้นสูง
วงเงินซื้อขั้นต่า 100 บาท วงเงินซื้อขั้นสูงไม่เกิน 5,000,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อต่อราย
วันที่ 26 ส.ค. 63 - 3 ก.ย. 63 วงเงินซื้อขั้นต่า 1,000 บาท วงเงินซื้อขั้นสูงไม่เกิน 10,000,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อต่อราย
วันที่ 4 - 11 ก.ย. 63 วงเงินซื้อขั้นต่า 1,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อต่อราย
7. วันที่ครบกำหนดไถ่ถอน
25 สิงหาคม 2567
26 สิงหาคม 2570
8.วันที่จ่ายดอกเบี้ย
25 กุมภาพันธ์ และ 25 สิงหาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน
26 กุมภาพันธ์ และ 26 สิงหาคม ของทุกปี จนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน
9.วิธีจัดจำหน่าย
จำหน่ายผ่านวอลเล็ต สบม. ในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
จำหน่ายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Mobile Application และเคาน์เตอร์ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ( ธ.กรุงเทพ , ธ.กรุงไทย , ธ.กสิกรไทย และ ธ.ไทยพาณิชย์ )
10.การชำระเงิน
ชำระเงินผ่านวอลเล็ต สบม. และได้รับหลักฐานการทำรายการตามรูปแบบที่วอลเล็ตกำหนด
ชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เคาน์เตอร์ธนาคาร
11.การเปลี่ยนแปลงชื่อ ที่อยู่ บัญชีรับดอกเบี้ย/เงินต้น และการทำธุรกรรมเกี่ยวกับพันธบัตร
สามารถแก้ไข ชื่อ ที่อยู่ ได้ ที่ วอลเล็ต สบม.(ยกเว้นการแก้ไขเบอร์โทรศัพท์และอีเมล ไม่สามาถแก้ไขได้)
ติดต่อธนาคารตัวแทนจำหน่าย ที่ทำรายการซื้อ
12.การเสียภาษี
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายดอกเบี้ยตามประกาศในประมวลรัษฏากร ผู้ซื้อจะได้รับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายทางไปรษณีย์ จนกว่าธนาคารกรุงไทยฯ จะแจ้งผู้ถือกรรมสิทธิ์ให้ดาวน์โหลดผ่านวอลเล็ต สบม. หรือทางอินเทอร์เน็ต กรณีที่สมัครใช้บริการข้อมูลพันธบัตรทางอินเทอร์เน็ตแล้ว (www.bot.or.th หัวข้อพันธบัตรและตราสารหนี้)
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่มีการจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราที่ประกาศในประมวลรัษฎากร (บุคคลธรรมดาจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ) ผู้ซื้อจะได้หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายทางไปรษณีย์ หรือทางอินเทอร์เน็ต กรณีที่สมัครใช้บริการข้อมูลพันธบัตรทางอินเทอร์เน็ตแล้ว (www.bot.or.th หัวข้อพันธบัตรและตราสารหนี้)
13. การจ่ายคืนเงินต้นเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนเงินต้นเข้าวอลเล็ต สบม. ของผู้ถือกรรมสิทธิ์ ในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน
ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนเงินต้นเข้าบัญชีเงินฝาก (ยกเว้นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษและบัญชีเงินฝากประจำ) ในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน กรณีเปลี่ยนเป็นพันธบัตรแบบมีใบตราสาร (Scrip) ธนาคารแห่งประเทศไทยจะโอนเงินต้นเข้าบัญชี เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคืนใบพันธบัตร