ฉาวอีก“สันติ”ชิงตั้งบอร์ดคุมเงินนอกงบ 4 ล้านล้าน ตัดหน้า"อาคม"

10 ต.ค. 2563 | 21:00 น.

ฉาวไม่หยุด"สันติ พร้อมพัฒน์" อาศัยอำนาจรักษาการ รมว.คลัง ชิงเสนอครม. ตั้งบอร์ดนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน คุมกองทุนนอกงบประมาณกว่า 4 ล้านล้าน

11 ตุลาคม 2563 ความคืบหน้ากรณีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้อาศัยอำนาจในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือ “รมว.คลัง” ทำหนังสือลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอเรื่องการแต่งตั้งผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คนใหม่ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาเพียง 1 วัน

 

ล่าสุดแหล่งข่าวจากจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เพิ่มเติมว่า นอกจากวาระแต่งตั้งผู้จัดการธ.ก.ส.คนใหม่แล้ว เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 นายสันติ ยังทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอเรื่องการแต่งตั้งกรรมในคณะกรรมการ(บอร์ด)นโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแล กองทุนหมุนเวียน หรือทุนหมุนเวียน ที่เป็นเงินนอกงบประมาณกว่า 4 ล้านล้านบาท ให้ที่ประชุมครม.พิจารณาอีกหนึ่งวาระ

ปัจจุบันมีทุนหมุนเวียนจำนวนทั้งสิ้น 115 ทุน สินทรัพย์รวม 4,390,347.04 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น สินทรัพย์ที่มีลักษณะสภาพคล่องและเงินลงทุนระยะยาว 3,644,708.66 ล้านบาท และสินทรัพย์อื่นที่นอกเหนือจากสภาพคล่องและเงินลงทุนระยะยาว 745,638.39 ล้านบาท

 

ตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 กำหนดให้ คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนคณะหนึ่ง ประกอบด้วย

 

(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ

 

(2) ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ

 

(3) ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ

 

(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนสามคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการเงิน การคลัง เศรษฐศาสตร์ บริหาร หรือกฎหมาย

 

ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้อธิบดีกรมบัญชีกลางแต่งตั้งข้าราชการในกรมบัญชีกลาง จํานวนสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนมีอํานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) กําหนดนโยบายและแผนการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี

 

(2) พิจารณากลั่นกรองการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียน

 

(3) กํากับติดตามการบริหารทุนหมุนเวียน

 

(4) เสนอให้มีหลักเกณฑ์ในการกําหนดจํานวนเงินสะสมสูงสุดสําหรับทุนหมุนเวียนต่าง ๆตามความเหมาะสมต่อคณะรัฐมนตรี โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา

 

(5) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการรวมหรือยุบเลิกทุนหมุนเวียน

 

(6) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการนําทุนหรือผลกําไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา

 

(7) ประกาศกําหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลทุนหมุนเวียนและการจัดทํารายงานทางการเงินของทุนหมุนเวียน

 

(8) กําหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การพัสดุ ตลอดจนการกําหนดค่าตอบแทน สิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการต่างๆ ของคณะกรรมการบริหาร ผู้บริหารทุนหมุนเวียน พนักงานและลูกจ้าง

 

(9) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการหรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย