นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงข้อเสนอของภาคเอกชนที่ต้องการให้ขยายมาตรการพักชำระหนี้ ที่จะสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 22 ต.ค. นี้ว่า เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องดังกล่าว แต่ตามหลักการควรจะมีการกำหนดระยะเวลาการพักชำระหนี้อย่างมีขอบเขตเหมือนในต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดวินัยในการชำระหนี้ และเกิดหนี้เสียสะสมเป็นระยะเวลานาน และควรจะใช้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้และการปรับโครงสร้างธุรกิจของภาคเอกชนหลังจากสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้มากกว่า
“คิดว่าตัวเลขหนี้เสียจะไม่น่าเป็นห่วงมาก ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ธปท.เป็นคนตัดสินใจ อาจจะมีการออกมาตรการเสริมควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างหนี้และการปรับโครงสร้างธุรกิจไปด้วย ซึ่งทุกสถาบันการเงินมีมาตรการในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้อยู่แล้ว จะต้องไปดูว่าจะต้องมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่”นายอาคม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อาคม"ชู 5 มาตรการฟื้นเศรษฐกิจระยะสั้น
คลัง จี้ ธปท.สรุป ยืดเวลาพักชำระหนี้
รมว.คลัง เตรียม ออกมาตรการให้ของขวัญปีใหม่ประชาชน
รมว.คลัง ไม่ห่วงม๊อบกระทบเชื่อมั่น
ด้านนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.จะเรียกธนาคารพาณิชย์ และภาคเอกชน มาหารือร่วมกัน โดยจะพิจารณาถึงตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ว่ามีสัดส่วนเท่าไหร่ รวมถึงแนวโน้มหนี้ที่จะเสียเป็นอย่างไร ก่อนพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องขยายมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนสิ้นสุดมาตรการแน่นอน