ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 367 จุด นักลงทุนยังรอผลเลือกตั้งสหรัฐ

04 พ.ย. 2563 | 23:52 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ย. 2563 | 07:06 น.

ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 367.63 จุด ขณะที่นักลงทุนยังคงรอผลการเลือกตั้งสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงรอผลการเลือกตั้งสหรัฐ ด้านนักวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ล่าสุดว่า ผลการเลือกตั้งอาจจะออกมาในลักษณะ "Gridlock" หรือไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ซึ่งจะทำให้นโยบายสำคัญต่างๆที่ริเริ่มไว้ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงนโยบายการลดภาษี
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,847.66 จุด เพิ่มขึ้น 367.63 จุด หรือ +1.34% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,443.44 จุด เพิ่มขึ้น 74.28 จุด หรือ +2.20% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,590.78 จุด เพิ่มขึ้น 430.21 จุด หรือ +3.85%
          

นักวิเคราะห์จากบริษัทเอเมอริไพรซ์ ไฟแนนเชียล ในเมืองบอสตัน แสดงความเห็นว่า แม้ว่านายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่เมื่อประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ ก็อาจไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ซึ่งหมายความว่า พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตจะยังคานอำนาจกันในสภาคองเกรส และจะทำให้นโยบายต่างๆที่สำคัญยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะนโยบายปรับลดภาษีที่ริเริ่มโดยคณะบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์
          

ดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพและประกันสุขภาพพุ่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่า หากไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรสสหรัฐ ก็จะทำให้พรรคเดโมแครตยังคงผลักดันกฎหมายประกันสุขภาพ "Affordable Care Act"          

ทั้งนี้ หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 10.33% หุ้นซิกนา คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพ พุ่งขึ้น 14.54% และหุ้นโมลินา เฮลธ์แคร์ เพิ่มขึ้น 2.53% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค พุ่งขึ้น 4.74% หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.12%
          

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ขานรับความหวังที่ว่าสภาคองเกรสชุดใหม่จะยังคงผลักดันมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการตรวจสอบพฤติกรรมผูกขาดตลาด โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 8.32% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 4.08% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 6.09% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 2% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ทะยานขึ้น 6.32%
          

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 3.06% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 4.09% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 3.33%
          

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 365,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 600,000 ตำแหน่ง
        

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 56.6 ในเดือนต.ค. จากระดับ 57.8 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 57.5 โดยดัชนีภาคบริการของสหรัฐถูกกดดันจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน
          

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 530,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 7.7% ในเดือนต.ค.