ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2  แคมเปญ11.11 ถูกกว่านี้คนละครึ่ง3000

วันที่ 10 พ.ย. จากกรณีที่กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 โดยลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com ในรอบเก็บตกสำหรับประชาชน จำนวนสิทธิโครงการคนละครึ่ง คงเหลือ ณ วันที่ 9 พ.ย.63  จำนวน 2.3 ล้านสิทธิ สำหรับผู้ที่ ผู้ไม่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาก่อน หรือเป็นผู้เคยลงทะเบียนแต่ไม่สำเร็จเตรียมตัวให้พร้อม  วันที่ 11 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.  2563   (11.11)  เริ่มเวลา 06.00-23
00.น.   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คนละครึ่งรอบ2 สแกนตัวตนไม่ผ่านยังได้สิทธิคนละครึ่ง3000

ห้ามพลาด!ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 เตรียมรอลงทะเบียน11/11

ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 คลังฯย้ำคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนคนละครึ่ง11/11

คนละครึ่งรอบ2 นับถอยหลังลงทะเบียน11/11

ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 เตรียมให้พร้อมเหลืออีก3วันลงทะเบียน3,000

สำหรับ 11.11 เป็นแคมเปญที่ผู้ให้บริการอี-คอมเมิรซ์  ไล่เรียงตั้งแต่ ลาซาด้า และ แคมเปญ นำสินค้าอุปโภคบริโภคมาลดราคา แต่สำหรับ คนละครึ่งรอบ2 เป็นแคมเปญที่ให้ถูกมากกว่านี้สำหรับประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 

แต่ 11.11 ในวันที่จะถึงนี้ คนละครึ่งรอบ2 ให้มากกว่าแคมเปญอื่นๆ เพราะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ3,000 โดยรัฐช่วยเหลือ50%

• สิ่งที่ต้องมีในวันลงทะเบียนคนละครึ่งรอบ2 มีดังนี้

1.บัตรประจำตัวประชาชน 
2. หมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ใช้งาน
3,เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
4. ลงทะเบียนเสร็จแล้ว  ตรวจดูชื่อ  นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เลขหลังบัตร หมายเลขโทรศัพท์ ตรวจความถูกต้องให้เรียบร้อย 
5. เมื่อลงทะเบียนผ่านรอรับ sms ยืนยันสิทธิ ภายใน 3 วันทำการ 
6. เมื่อได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ต้องรีบเข้าไปยืนยันตัวตนที่แอปกระเป๋าตัง
7.ถ้ามีบัญชีธนาคารกรุงไทย มีบัตร ATM ธนาคารกรุงไทย ยืนยันผ่าน บัตร ATM ธนาคารกรุงไทย ถ้าไม่มีให้ยืนยันผ่านบัตรประจำตัวประชาชน
8.ยืนยันตัวตนไม่ผ่านไปที่ ตู้ATMกรุงไทย สีเทา รุ่นใหม่เพียงเสียบบัตรประชาชนเท่านั้น

อนึ่ง ณ วันที่ 9 พ.ย. 63 เวลา 12.00 น.  มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.57 แสนร้านค้า และ ประชาชนผู้ใช้สิทธิลงทะเบียนคนละครึ่ง แล้วจำนวน 7,352,274 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 10,155 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 5,178 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 4,977 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 214 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ