ธปท.รุดหาช่องปรับเงื่อนไขสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

16 พ.ย. 2563 | 21:15 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2563 | 08:49 น.

ธปท.รุดศึกษาความเป็นไปได้-ปรับเงื่อนไขสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หวังดันซอฟต์โลนเพิ่ม หลังคืบหน้าอนุมัติ 1.2แสนล้านบาท  

 

ธปท.รุดหาช่องปรับเงื่อนไขสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

นางสาวสุวรรณี   เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการอนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) โดยเมื่อ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563  ได้มีการอนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน  120,572 ล้านบาท และจำนวนผู้ได้รับซอฟต์โลน 72,182 ราย  โดยปัจจุบันทีมงานของธปท.ที่ดูแลซอฟต์โลนอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ว่า ภายใต้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 5 แสนล้านบาทนั้นจะสามารถปรับปรุงแก้ไขอย่างไร   โดยยอมรับว่า การออกมาตรการซอฟต์โลนช่วงแรกนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้รวดเร็ว  ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า  โดยอำนวยสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้เดิมที่มีวงเงินสินเชื่ออยู่กับธนาคารพาณิชย์  แต่สำหรับรายที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจะมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน 

ธปท.รุดหาช่องปรับเงื่อนไขสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-“ธพว” ส่งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วย “SMEs” ภาคใต้ฟื้นธุรกิจ

-เปิดรายละเอียด ธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รายละ 5 แสนบาท

-ธปท.ย้ำหลัก 4 ด้านช่วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำSMEs

-เช็กที่นี่ ออมสิน ปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลนช่วยเหลือท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม  กรณีข้อเรียกร้องจากธนาคารพาณิชย์เกี่ยวกับสินเชื่อซอฟต์โลนของธปท. ที่กำหนดวงเงิน 20%ของยอดหนี้คงค้างสิ้นเดือนธันวาคม 2562 ถือว่าเป็นระดับต่ำ   แต่ การจะพิจารณาปรับวงเงินดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก  เนื่องจากวงเงินดังกล่าวนั้น เป็นไปตามพ.ร.ก.ของซอฟต์โลนกำหนด
    “ตอนนี้แบงก์ชาติดูในเรื่องอื่นๆที่จะสามารถปรับได้เองด้วยประกาศของแบงก์ชาติ ซึ่งอาจจะรวดเร็วกว่า หากมีความชัดเจนจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เร็วๆนี้  เพราะมีกฎหมายกำกับอยู่ซึ่งเราจะต้องList ออกมาว่าอะไรที่สามารถทำให้สินเชื่อซอฟต์โลนเพิ่มขึ้น  เช่น ช่วงแรกห่วงเรื่องความเสี่ยงว่า ใครจะมารับCredit Risk หลังจากสองปี เราก็ประสานบสย. หรือความกังวลธุรกิจในตลาด MAIซึ่งเราก็ได้ปรับ  ดังนั้นเราก็จะรีบปรับเพราะเราก็เป็นห่วงเหมือนกัน คาดว่าแบงก์ชาติพยายามให้เสร็จภายในปีนี้”

ทั้งนี้  ที่ผ่านมา ธปท.ได้ผ่อนคลายเกณฑ์ซอฟต์โลนมาตามลำดับ   เห็นได้จากการขยายเวลาขอสินเชื่อซอฟต์โลนไปอีกเป็นเวลา 6 เดือนหลังหมดมาตรการ 22 ตุลาคม 2563 ไปจนถึงเดือนเมษายน 2564 รวมถึงยังขยายกรอบการปล่อยสินเชื่อไปสู่บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด MAI  รวมทั้งประสานทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาค้ำประกันความเสี่ยงหลังจากปีที่ 2 


“ซอฟต์โลนรอบแรกครบกำหนด เมื่อ 22ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตามพ.ร.ก.สามารถต่อได้ 2ครั้ง ตอนนี้ เราต่อรอบที่สองไปแล้ว 6เดือนซึ่งจะครบในเดือนเมษายนปีหน้า   ตอนต่อรอบสองก็ได้รับเกณฑ์ให้บริษัทที่อยู่ในตลาดMAIสามารถเข้ามาได้  ระหว่างนี้คงจะอยู่ในกระบวนการพิจาณาของสินเชื่อ และประสานทางบสย.เข้ามา รับความเสี่ยงในปีที่ 3ถึงปีที่ 10 ผ่านโครงการ PGS PLUS ของบสย. แต่ตอนนี้แบงก์กำลังปรับโปรดักต์ โปรแกรมอยู่”นางสาวสุวรรณ กล่าวในที่สุด