ดาวโจนส์ปิดบวก 85 จุด แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานลดลงมากกว่าคาด

03 ธ.ค. 2563 | 23:49 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2563 | 06:56 น.

ดาวโจนส์ปิดบวก 85.73 จุด แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ประกาศลดเป้าหมายการจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในปีนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นไฟเซอร์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 1.7%
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,969.52 จุด เพิ่มขึ้น 85.73 จุด หรือ +0.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,666.72 จุด ลดลง 2.29 จุด หรือ -0.06% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,377.18 จุด เพิ่มขึ้น 27.81 จุด หรือ +0.23%
          

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นทำนิวไฮในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 780,000 ราย
          

นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนหลังจากที่นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ในวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์
          

อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์อ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากบริษัทไฟเซอร์คาดการณ์ว่า ทางบริษัทจะสามารถจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ได้เพียง 50 ล้านโดสเท่านั้นในปีนี้ ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะจัดส่งได้ 100 ล้านโดส เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับซัพพลายเชน รวมทั้งพบว่าการขนส่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัคซีนนั้น ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
        

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 1.72% และเป็นปัจจัยสำคัญที่สกัดแรงบวกในตลาด
          

หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.33% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.08% หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 0.7% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 3.15%
          

หุ้นกลุ่มสันทนาการซึ่งปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ปรับตัวขึ้น 1.28% หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ทะยานขึ้น 8.13%
          

หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 5.99% ขานรับข่าวสายการบินไรอันแอร์ เพิ่มคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง MAX 737 อีก 75 ลำ
          

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 4.32% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทสลาขึ้นสู่ระดับ "buy" เนื่องจากหุ้นเทสลาจะได้รับการคำนวณในดัชนี S&P 500 ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้
          

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 55.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. จากระดับ 56.6 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56.0
          

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดุลการค้าเดือนต.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.