ยอดขายรถในประเทศ-ส่งออกทรุด ส.อ.ท.หั่นเป้ายอดผลิตปี 67 เหลือ 1.5 ล้านคัน

25 พ.ย. 2567 | 06:10 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2567 | 06:16 น.

ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนต.ค.67 ต่ำสุดในรอบ 54 เดือน ส.อ.ท.ปรับเป้ายอดผลิตรถปี 67 จาก 1.7 ล้านคันเหลือ 1.5 ล้านคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้มีการปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 2567 อีกครั้ง หลังจากภาพรวมตลาดทั้งในและต่างประเทศได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเป้าหมายใหม่ที่ได้คาดการณ์มีดังนี้ 
 

เป้าผลิตรถยนต์ปี 2567 จากเดิมตั้งไว้ 1,700,000 คันปรับเป็น 1,500,000 คัน ลดลง 200,000 คัน

  • ผลิตขายในประเทศลดลงจาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน
  • ผลิตเพื่อส่งออกลดลงจาก 1,150,000 คัน เป็น 1,050,000 คัน
     

ยอดขายรถในประเทศ-ส่งออกทรุด ส.อ.ท.หั่นเป้ายอดผลิตปี 67 เหลือ 1.5 ล้านคัน

 

ยอดผลิตรถยนต์ต.ค.67 ลดลง 25.13 %

รถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2567 มีทั้งสิ้น 118,842 คัน ลดลง 25.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยแบ่งการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 7.00% และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 51.70% ขณะที่ตัวเลขการผลิตรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,246,868 คัน ลดลง 19.28%
 

ขายรถในประเทศยอดต่ำสุดในรอบ 54 เดือน


ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,691 คัน ต่ำสุดในรอบ 54 เดือนนับตั้งแต่ยกเลิกล็อคดาวน์จากการระบาดโรคโควิด-19 เดือนพฤษภาคม 2563 

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อยอดขายรถในประเทศที่ลดลงเป็นผลมาจากการเข้มงวดในการให้กู้ซื้อรถยนต์ของสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่งผลให้จำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามมี 6,365,571 บัญชี ลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชี และ ลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชี ขณะที่จำนวนเงินหนี้รถยนต์ไตรมาสสาม 2,465,204 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสสอง 2.8% และลดลง 5.8% จากไตรมาสสามปี 2566 

 

ด้านรถบรรทุก ตัวเลขการขายลดลงทรุดหนัก เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศที่ยังอ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ดัชนีภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่ำที่ร้อยละ 0.1 ในไตรมาสสาม 

 

ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มีจำนวน 476,350 คัน ลดลง 26.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 

 

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลงเป็นผลมาจากความเข้มงวดของสถาบันการเงิน และแม้ว่าในช่วงปลายเดือนนี้จะมีงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดให้มีความคึกคัก โดยประเมินว่ายอดจองรถภายในงานจะสูงกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินจะยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออยู่ดี เนื่องจากอัตราส่วนของหนี้เสียยังสูงอยู่ ดังนั้นจึงประเมินว่าในปีนี้ เป้ายอดขายที่เคยประกาศไว้ว่าจะทำได้ 550,000 คัน ก็ลดลงเป็น 450,000 คัน

งานมอเตอร์เอ็กซ์โป
 

สงครามขยายวง กระทบส่งออก

เดือนตุลาคม 2567 ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 84,334 คัน ลดลง 20.23% ส่วนตัวเลขส่งออกตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 853,221 คัน ลดลง 8.02%


สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดส่งออกคือสงครามอิสราเอลกับฮามาส ที่ต้องจับตาดูว่าจะขยายวงกว้างมากขึ้นหรือไม่ เพราะหากลุกลามก็จะกระทบกับตลาดในตะวันออกกลางและยุโรป นอกจากนั้นแล้วความขัดแย้งที่ต้องติดตามว่าจะกระทบเศรษฐกิจโลกคือสงครามยูเครนกับรัสเซียที่อาจขยายไปประเทศอื่นซึ่งกระทบการส่งออกรถยนต์และสินค้าอื่นๆ 

 

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดส่งออกในเดือนตุลาคม 2567 ลดลงทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย จีน ที่ภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี รวมไปถึงตลาดในยุโรป อัฟริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง เนื่องจากสงครามขยายวงกว้าง ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้ส.อ.ท.ต้องปรับเป้ายอดส่งออก จากเดิมที่คาดว่าจะส่งออก 1,150,000 คัน ก็ปรับลดลงมาเหลือ 1,050,000 คัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนตุลาคม 2567 

เดือนตุลาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 6,651 คัน ลดลง 32.19% โดยแบ่งเป็น 

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,890 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 36.62%
  • รถกระบะ รถแวน 40 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 110.53%
  • รถยนต์สามล้อรับจ้าง 3 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 90.32%
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,702 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 13.47%
  • รถโดยสารมี 7 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 89.39%
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 9 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 10%

เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 82,304 คัน เพิ่มขึ้น 6.12% โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 59,198 คัน เพิ่มขึ้น 2.18%
  • รถกระบะ รถแวน 549 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 จำนวน 289.36%
  • รถยนต์สามล้อ 144 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 จำนวน 51.35%
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 21,756 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 จำนวน 21.53%
  • รถโดยสาร 288 คัน ลดลงเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 จำนวน 76.22%
  • รถบรรทุก 369 คัน เพิ่มขึ้นเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 จำนวน419.72%

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนตุลาคม 2567