"ดาวโจนส์"ปิดลดลง 153 จุด  วิตกบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง

18 มี.ค. 2564 | 23:51 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มี.ค. 2564 | 06:59 น.

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.)ปรับลดลง 153.07 จุด ตามแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

 


ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 153.07 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 32,286.30 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 58.66 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 3,915.46 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 409.03 จุด หรือ 3.02% ปิดที่ 13,116.17 จุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวลงในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนีแนสแด็กดิ่งลงกว่า 1%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.74% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่ม growth stock โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มดังกล่าว และเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม value stock ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มที่จะปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์จากการที่สหรัฐเริ่มเปิดเศรษฐกิจ หลังใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สถาบันวิจัยเนด เดวิสคาดการณ์ว่า ดัชนีแนสแด็กจะทรุดตัวลงอีก 20% หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับ 2%

นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในยุโรป รวมทั้งการที่หลายประเทศในยุโรประงับใช้วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่งผลให้แผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในภูมิภาคแห่งนี้เป็นไปอย่างล่าช้า และมีแนวโน้มที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

รายงานล่าสุดระบุว่า นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์กรุงปารีสและแคว้นอื่นๆอีกหลายแห่งเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19        

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดโควิด 19 มี.ค.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 5.19 แสนราย สะสม 122.33 ล้านราย

BCAP ลุยหุ้นไทย