ปรากฏการณ์ราคาบิตคอยน์ ที่ทะยายขึ้นทำสถิตินิวไฮหลายรอบในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนขณะนี้ราคาสูงกว่า 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท ทำให้กลุ่มนักลงทุนหรือกลุ่มนักขุดบิตคอยน์ มีการหาซื้อการ์ดจอไปใช้เป็นเครื่องมือการขุดบิตคอยน์ อย่างไรก็ตามดีมานด์ที่เพิ่ม กับปัญหาชิปเช็ตขาดตลาด ส่งผลให้การ์ดจอขาดตลาดและราคาขยับขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว ทำให้กลุ่มนักขุดบิตคอยน์ หันมาซื้อคอมประกอบสเปกแรงไปเพื่อถอดการ์ดจอมาใช้ขุดบิตคอยน์
โดยนายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บริษัทเออาร์ ไอพี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่างานคอมมาร์ต COMMART Crazy Offer ที่ผ่านมานั้นเกิดปรากฏการณ์ยอดขายเครื่องประกอบ หรือ DIY แซงหน้าคอมพิวเตอร์พกพา หรือ โน้ตบุ๊ก เป็นครั้งแรก โดยปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากมีกลุ่มนักลงทุนขุดบิตคอยน์ ที่เข้ามาซื้อเครื่องประกอบภายในงาน เพื่อนำการ์ดจอไปใช้ในการขุดบิตคอยน์ ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนมารอต่อคิวซื้อคอมพิวเตอร์ประกอบ ตั้งแต่ 7-8 โมงเช้า ก่อนเวลาเปิดเข้างาน 10 โมงเช้า โดยคอมพิวเตอร์ประกอบที่ขายในงานมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4 หมื่นบาท อย่างไรก็ตามเครื่องประกอบที่ขายดีสุด เป็นเครื่องที่มีราคาตั้งแต่ 1.4-1.6 แสนบาท
“ราคาบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้น เกิน 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.5 ล้านบาท ทำให้กลุ่มนักลงทุน มีการหาซื้อการ์ดจอไปใช้ในการขุดบิตคอยน์ อย่างไรก็ตามขณะนี้การ์ดจอขาดตลาด กลุ่มนักขุดบิตคอยน์ จึงใช้วิธีลงทุนซื้อเครื่องประกอบ สเปกแรงราคาสูง ไปถอดการ์ดจอมาใช้ขุดบิตคอยน์ มองว่าเทรนด์ที่เกิดขึ้นนั้นจะยาวนานต่อเนื่องไปถึงปลายปี ซึ่งเชื่อว่าในงานครั้งนี้ผู้ค้า ทั้ง คอมเซเว่น เจ.ไอ.บี. แอดไวด์ สปีดคอมพิวเตอร์ จะมีจัดโปรโมชัน หรือ แคมเปญกันเพื่อช่วงชิงลูกค้ากลุ่มนี้”
นายพรชัย กล่าวต่อไปว่า ยอดเงินสะพัดในงานปีนี้อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เติบโตขึ้นราว 10% แสดงให้เห็นว่าดีมานด์ความต้องการสินค้าไอทีในตลาดเริ่มกลับมา โดยกลุ่มสินค้าขายดี ได้แก่คอมพิวเตอร์ประกอบ 38 %, โน้ตบุ๊ก 36%, สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต 13%, อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค 11% และกลุ่มทีวีและมอนิเตอร์ มีสัดส่วน 2%
ด้านนายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่าขณะนี้ดีมานด์ความต้องการการ์ดจอในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ซัพพลายไม่เพียงพอทำให้ราคาการ์ดจอขยับขึ้น 2-3 เท่าตัว ของมาเท่าไรก็ไม่เพียงพอกับความต้องการตลาด ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้คือนักลงทุนหันมาใช้วิธีซื้อคอมพิวเตอร์เซ็ต แต่ไม่ต้องประกอบ แต่ต้องการเอาเฉพาะการ์ดจออย่างเดียวไปใช้ ขุดบิตคอยน์ ซึ่งชิ้นส่วนประกอบอื่นก็แยกขายราคาถูก ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาบิตคอยน์ที่อยู่ในช่วงขึ้น
“ตอนนี้สินค้าไอทีขาดตลาดหมด ราคาก็ขยับขึ้นหมด แต่ที่ราคาขยับมากสุดคือ การ์ดจอ เช่นเดิมที่ราคา 10,000 บาท ขยับไปเป็น 30,000 บาท เนื่องจากดีมานด์ความต้องการสูงแต่ซัพพลายไม่มี ซึ่งเชื่อว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะอยู่ไปถึงสิ้นปี”
ขณะที่นักวิเคราะห์ตลาดคอมพิวเตอร์ บริษัทไอดีซี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าช่วงบิตคอยน์ ขาขึ้น ทำให้นักขุดบิตคอยน์ หาซื้อคอมพิวเตอร์ประกอบ โดยเลือกเซ็ตที่การ์ดจอแรง ไม่เน้นซีพียูแรง เพื่อนำการ์ดจอไปใช้ขุดบิตคอยน์ อย่างไรก็ตามขณะนี้สินค้าไอทีทั้งหมดขาดตลาด และราคาขยับขึ้น แต่มองว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็นเทรนด์ตลาดระยะยาว คาดว่าเป็นดีมานด์ที่เกิดขึ้นในช่วงบิตคอยน์ขาขึ้นเท่านั้น
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,667 วันที่ 4 - 7 เมษายน พ.ศ. 2564