อุตฯยานยนต์ไทยรับมือบาทแข็ง-กีดกันการค้า

31 ธ.ค. 2562 | 07:44 น.

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2563 ยังเจอปัจจัยลบเพียบ ทั้งบาทแข็ง สงครามการค้า กระทบยอดส่งออก ขณะที่เพื่อนบ้าน “เวียดนาม” เริ่มมีมาตรการกีดกันทางการค้ารถยนต์จากไทย และอินโดนีเซีย

นายอดิศักดิ์ โรหิตศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์คือ สถานการณ์การส่งออก ที่ได้รับผลกระทบจากทั้งค่าเงินบาทที่แข็ง รวมกับเศรษฐกิจของประเทศปลายทางไม่ดีนัก ทั้งจากภายในเอง และผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ยังส่งผลในวงกว้าง

ตลาดที่ส่งผลกระทบกับการส่งออกของไทย เช่น ตลาดใหญ่อย่างออสเตรเลีย ขณะเดียวกันก็ยังจับตาความเคลื่อนไหวของเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ที่เริ่มหามาตรการกีดกันทางการค้าเพื่อลดการนำเข้ารถยนต์จากไทย และอินโดนีเซีย เพราะต้องการผลักดันอุตสาหกรรมในประเทศ หรือฟิลิปปินส์ที่มีปัญหาฟ้องร้องกับบริษัทบุหรี่ในไทย และใช้โอกาสนี้หยิบเอาสินค้ารถยนต์มาเป็นเครื่องต่อรอง

อุตฯยานยนต์ไทยรับมือบาทแข็ง-กีดกันการค้า

นอกจากนี้ คนในอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องปรับตัวจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หรือ เทคโนโลยี ดิสรัปชัน นั่นคือการมาของรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อน หรือ เอ็กซ์อีวี (XEV) เช่น อีวี ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (autonomous) ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity) และระบบการแบ่งปันใช้งาน (Car sharing) ซึ่งผู้ประกอบการ โดยเฉพาะคนไทยจะต้องเร่งปรับตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงเพื่อคงศักยภาพการแข่งขัน และมุ่งไปสู่การผลิตสินค้าที่ตอบรับทิศทางในอนาคต

นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไทยเผชิญกับวิกฤติมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ทุกครั้ง และภาพรวมการผลิตยังอยู่ในระดับที่สูง

ส่วนปัจจัยที่น่าที่กังวลคือ ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการส่งออก ทั้งจำนวนที่ลดลง และรายได้ที่ลดลง เพราะไม่สามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้ บวกกับการเกิดสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทำให้กำลังซื้อของประเทศคู่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากสงครามดังกล่าวลดลง ทำให้การส่งออกไม่ดีนัก