"หมอธีระ" ย้ำชัด โควิด 19 ระลอก 2 มาแน่ ไม่ช้าก็เร็ว

06 ต.ค. 2563 | 18:10 น.

"หมอธีระ" เผย โควิด 19 ระลอก 2 มาแน่ ไม่ช้าก็เร็ว ระบุนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โอกาสรอดจากการระบาดซ้ำนั้นยังไม่เห็น

วันที่ 6 ตุลาคม 2563  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 โดยมีเนื้อดังต่อไปนี้ 


เมียงมองไปประเทศแถบยุโรปอย่างฟินแลนด์ ล่าสุดติดเพิ่มอีกถึง 227 คน นับเป็นสถิติรายวันสูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมา คราวนี้สูงกว่าระลอกแรกที่เคยทำสถิติไว้ที่ 211 คนในช่วงเมษายน และดูแนวโน้มจะไต่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ จำนวนติดเชื้อเฉลี่ยต่อประชากร 100,000 คนของเค้าเพิ่มขึ้นเกิน 2 เท่า จากเดิม 14.2 ขึ้นมาเป็น 30.6 


ทั้งนี้ยุโรปกำลังเจอระบาดซ้ำขาขึ้นกันมากมาย โดยฟินแลนด์ถือว่ามีจำนวนรายวันน้อยที่สุดของยุโรป แต่ดูแล้วก็น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง


จากข้อมูลที่ติดตาม ประเทศที่นโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปมาหาสู่กันนั้น ไม่มีใครที่รอดจากการระบาดซ้ำได้ ไม่ว่าจะตั้งระบบกฎเกณฑ์แบบใดขึ้นมาก็ตาม


ยิ่งตั้งท่าว่าจะเปิดเกาะ และเปิดจังหวัดอีกหลายจังหวัด ยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแบบไม่ทันตั้งตัว แบบดาวกระจาย 
 

สถานการณ์เช่นในปัจจุบัน ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามาแน่ จะมากับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามา หรือจะมากับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็รอติดตามกันต่อไป ไม่ช้าก็เร็วครับ


หากถามตรงๆ ว่าตอนนี้เชื่อใจใครหรือพึ่งหน่วยงานใดได้บ้าง? ผมคงตอบตรงๆ ว่า ไม่เชื่อใจและไม่พึ่งใครทั้งสิ้นยกเว้นตัวของเราเองแต่ละคน 
โอกาสรอดจากการระบาดซ้ำนั้นผมยังไม่เห็น...


แต่โอกาสรอดจากการติดเชื้อสำหรับแต่ละคนนั้นยังมีอยู่แน่นอน...ขึ้นกับตัวเราเองทุกคน


ขอให้รักตัวเองรักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ตามหลักการป้องกันที่เราย้ำกันอยู่เสมอ  ใส่หน้ากาก  ล้างมือบ่อยๆ  อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร  พูดน้อยลงพบคนน้อยลงสั้นลง  เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร  คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว  หากไม่สบายควรหยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจรักษา


อย่างไรก็ตาม ขอให้ใช้เวลาเตรียมตัวเตรียมอุปกรณ์เตรียมงานและเตรียมใจไว้ต่อสู้อย่างอดทน อดกลั้น อดออม พอเพียง
 

หัวใจสำคัญที่สุดในระยะถัดจากนี้ไปคือ "ใส่หน้ากาก" และ "คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบาย ให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจครับ"


ใครจะผลักดันนโยบายกิเลสโกยเงินแลกความเสี่ยงอย่างไรก็ตาม ช่างหัวมัน...แต่ขอให้รักษาตัวพวกเราเองให้อยู่รอดปลอดภัยจากโรคก็พอ


วลี "Reopen now or face collapse" นั้นใครจะเชื่อก็เชื่อไป แต่ผมไม่เชื่อครับ  ระวังให้ดีว่าอาจกลายเป็น "Open now and collapse for a long time"  ...ด้วยรักต่อทุกคน