กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 คนพิการจะได้เบี้ยคนพิการเพิ่มขึ้นจากเดิม 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อคน เฉพาะคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 1,103,065 ราย และเด็กพิการทั่วประเทศที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี อีกจำนวน 126,032 ราย รวมจำนวน 1,229,097 ราย (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2563)
การปรับเบี้ยดังกล่าวถือว่าเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ค่าครองชีพต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระของคนพิการ และช่วยยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น
สำหรับรายละเอียดการจ่ายเบี้ยความพิการให้แก่คนพิการ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม เป็นต้นไป จะมี 3 กลุ่ม ดังนี้
1. อายุต่ำกว่า 18 ปี ได้รับเงินเบี้ยความพิการ จาก อปท. 800 บาท/เดือน อปท. ตั้งเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน รวม 1,000 บาท/เดือน
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับเงินเบี้ยความพิการจาก อปท. 800 บาท/เดือน และสามารถกดเพิ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน อีก 200 บาท/เดือน รวม 1,000 บาท/เดือน
3. อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับเบี้ยความพิการ จาก อปท. 800 บาท/เดือน ก็จะไม่มีสิทธิได้รับเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศุกร์นี้ รอรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนพิการ
ยื่นหนังสือถึงนายกฯปรับเบี้ยคนพิการ1,000บ.ถ้วนหน้า
แนะรัฐปรับเบี้ยผู้พิการ 1,000 บาทเท่ากันทุกคน
เปิดรายละเอียด จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการ โอนเงินวันไหนบ้าง
ข่าวดีเดือน ต.ค. เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการ รับเงินเร็วก่อนกำหนด
จากเงื่อนไขรายละเอียดที่ประกาศออกมา จะเห็นว่ากลุ่มที่ 3 คนพิการที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งทางกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้ประกาศว่าหากมีการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่) จะแจ้งให้ทราบและขอให้ติดตามข่าวสารต่อไป โดยผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 และ สายด่วนคนพิการ 1479
ขณะที่ตัวแทนจากฟากฝั่งของพิการ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยก็ได้เข้าไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนำ “งบกลาง” มาจัดสรรปรับสวัสดิการเบี้ยความพิการเพิ่มจาก 800 บาทเป็น 1,000 บาทให้กับคนพิการที่ตกหล่น (กลุ่มที่ 3) จำนวนกว่า 800,000 คน โดยถ้วนหน้า ซึ่งจำนวนงบประมาณหากรัฐจะจัดสรรให้จะอยู่ที่ประมาณ1,920 ล้านบาท (800,000 คน x 200 บาท x 12 เดือน)
นอกจากนั้นแล้ว หนังสือที่ยื่นข้อเรียกร้องดังกล่าวยังมีเนื้อหาใจความว่า "หากรัฐบาลเมินเฉยไม่แยแสที่จะเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการให้กับคนพิการแบบถ้วนหน้า จะทำให้คนพิการไม่ได้รับสวัสดิการขั้นพื้นฐานนี้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรม ดังเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ตามมาตรา 20 (9) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2556
อีกทั้งคนพิการที่มีสิทธิรับสวัสดิการเบี้ยความพิการดังกล่าวจะเกิดความสับสนด้วยเหตุเพราะรัฐบาลกำหนดลักษณะการจ่ายเงินที่แตกต่างกัน เนื่องจากรัฐบาลนำสวัสดิการขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิคนพิการมาผสมปนเปกับนโยบายชั่วคราวเพื่อสร้างค่านิยมของรัฐบาลเองอย่างนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
มิหนำซ้ำยังสุ่มเสี่ยงจะเป็นการสร้างความแตกแยก ความเหลื่อมล้ำ และการเลือกปฏิบัติระหว่างคนพิการด้วยกันเอง อันถือได้ว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะทิ้งคนพิการไว้ข้างหลัง อันอาจจะนำมาสู่ความขุ่นข้องหมองใจจนคนพิการต้องไปร่วมชุมนุมก็เป็นได้!