"ปลัดแต"แจงลั่น ตระกูล"ไกรวัตนุสสรณ์"ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องบริหารตลาดกลางกุ้งฯ มีเพียงอาถือหุ้นอยู่จิ๊บจ๊อย แพกุ้ง"อนุสรณ์"ก็ไม่เคยใช้แรงงานเถื่อน หลังรับตำแหน่งนายก อบจ.เต็มตัวพร้อมหนุนมาตรการของจังหวัด ด้านผู้จัดการตลาดฯลั่น แค่ให้เช่าพื้นที่และที่พัก ไม่เกี่ยวจัดหาแรงงานเถื่อน
นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วิกฤติโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ณ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีการสืบค้นต้นทาง-เบื้องต้นว่า มีการแพร่ระบาดมาจากแรงานต่างด้าวในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร และมีการกล่าวโจมตีทางครอบครัวไกรวัตนุสสรณ์ โดยเฉพาะนายมมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ หรือเฮียม้อ ซึ่งเป็นบิดาของตนว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังตลาดกลางกุ้งฯ นั้น โดยข้อเท็จจริงแล้ว เป็นเพราะในช่วงเริ่มแรกที่มีการย้ายตลาดกลางกุ้งฯ ออกมาจากสะพานปลาเก่าย่านท่าเรือในตลาดมหาชัย นายมณฑลได้เข้าไปช่วยเหลือจัดการให้ในเบื้องต้น แต่หลังจากนั้นมาก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารแต่อย่างใด มีเพียงอาของตนซึ่งเป็นน้องชายของนายมณฑล เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ร่วมถือหุ้นจำนวนไม่มากนักอยู่กับตลาดกลางกุ้งฯ นอกจากนั้นตระกูลไกรวัตนุสสรณ์ก็เกี่ยวข้องกับตลาดกลางกุ้งฯ โดยมีแพกุ้งอนุสรณ์อยู่ในตลาดกลางกุ้งฯเพียงแห่งเดียวและมีการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ผ่านกระบวนการอย่างถูกกฎหมายอยู่ 25 คน
“โดยข้อเท็จจริงแล้วการระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ได้เกิดขึ้นที่สมุทรสาครเป็นแห่งแรกของโลก จึงควรตรวจหาให้ชัดเจนว่าแรงงานต่างด้าวนำเชื้อจากประเทศเมียนมาร์เข้ามาได้อย่างไร ทั้งอาคารที่พักในบริเวณตลาดกลางกุ้งฯ ก็มีนายจ้าง-บุคคลภายนอกจำนวนมาก มาเช่าห้องพักเพื่อให้ลูกน้อง-คนงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่ด้วย”
ส่วนเมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาครแล้ว จะแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรนั้น นายอุดม กล่าวว่า คงต้องร่วมทำงานกับหน่วยงานต่างๆของทางจังหวัดฯ เพื่อทำระบบที่ดีที่สุดและเพื่อให้เอกชนเดินต่อได้ ซึ่งตามหน้าที่ของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ ก็จะต้องดำเนินงานหรือทำตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครมีมติเสนอมา และเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดสงบลง ก็คงต้องดำเนินการแก้ปัญหาโรคระบาดและปัญหาแรงงานเถื่อนตามติของทางจังหวัดฯ เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาวิกฤติที่เกิดขึ้นโดยตรง คงต้องดำเนินการตามที่ทางหน่วยงานผู้เป็นต้นเรื่อง ขอการสนับสนุนมา
ด้านนายเกษม อำไพกิจพาณิชย์ เจ้าของและผู้จัดการตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าของพื้นที่ในตลาดกลางกุ้งฯและอาคารที่พักอาศัย โดยมีบุคคลภายนอกเข้ามาเช่าและบริหารแพกุ้ง ซึ่งปัจจุบันตลาดก็ถูกปิดและประชากรในตลาดฯ ก็ถูกกักตัวอยู่ ที่ผ่านมาสถานการณ์ทั้งหมดก็ถูกควบคุมโดยทางราชการ ทางตนเองก็ระมัดระวังทุกอย่างตามระเบียบราชการ แรงงานลักลอบผิดกฎหมายตนก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยและไม่ใช่เรื่องของตน ความเสียหายที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคก็มีอยู่ทั่วประเทศ เมื่อมีผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อไปก็ต้องมีการระมัดระวัง ต้องคัดกรองกันมากขึ้น และหากจะมีการฟ้องร้องตลาดกลางกุ้งฯกรณีเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหาย ตนคิดว่าก็คงต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"อนุทิน"กักตัว ประชุมออนไลน์ติดตามกรณีตลาดกลางกุ้ง