นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท.ดบ.)เปิดเผยว่า ปณท.ดบ. ได้ดำเนินการร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้บริการจัดส่งตัวอย่างส่งตรวจ(ทารกแรกเกิด) หรือการจัดส่งกระดาษซับหยดเลือดของเด็กทารกแรกเกิด เพื่อใช้สำหรับตรวจเช็คโรค โดยเป็นอีกบริการขนส่งสำคัญของกลุ่ม Health Logistic สำหรับดำเนินการตรวจสอบโรคและความผิดปกติต่างๆของทารกแรกเกิด โดยเฉพาะภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนหรือภาวะปัญญาอ่อน เพื่อให้ทันต่อการรับยาและรักษาภายใน 14 วัน
ทั้งนี้ ด้วยความที่กรอบเวลาดังกล่าว ส่งผลโดยตรงกับชีวิตของทารกแรกเกิด ทางปณท.ดบ.จึงดำเนินการวางระบบขนส่งแบบเร่งด่วนหรือ EMS .ที่ประกันการจัดส่งทั่วประเทศภายใน 3 วันทำการ เพื่อนำส่งกระดาษซับเลือดเด็กทารกแรกเกิดหลังคลอด 48 ชม ไปยังศูนย์ปฏิบัติการการตรวจคัดกรองสุขภาพทารกแรกเกิดแห่งชาติ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำการตรวจวิเคราะห์ พร้อมแจ้งผลให้ผู้ปกครองนำเด็กทารกเข้ารับการรักษาได้ทันภายในระยะ 14 วัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการรักษาโรคในภาวะดังกล่าว
ดังนั้น โครงการนี้ จึงมีส่วนสำคัญที่ดูแลคุณภาพชีวิตของคนไทยตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่เพียงการป้องกันโรค แต่ยังช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดยจากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า หากตรวจพบเด็กทารกแรกเกิดที่มีภาวะพร่องไทรอยด์แต่กำเนิด และดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทันเวลาตามกำหนดภายใน 14 วัน จะช่วยป้องกันภาวะปัญญาอ่อนในทารกกลุ่มนี้ได้ปีละประมาณ 550 คน ช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์ได้กว่า 4 พันล้านบาท โดยเป็นไปตามฐานข้อมูลที่ประชากร 1 คนจะมีความคุ้มค่าเศรษฐศาสตร์ ประมาณ 8 ล้านบาท
“ปณท. ดบ. มีความพร้อมในการบริการจัดส่งกระดาษซับเลือดทารกแรกเกิด ทั้งระบบขนส่ง รวมถึงการจัดเก็บและรถขนส่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิ ถูกต้องแม่นยำ ตรงต่อเวลา สามารถตรวจสอบสถานการณ์จัดส่ง และป้องกันการสูญหายได้จากรหัส EMS รวมถึงบาร์โค๊ด ที่เตรียมไว้”
ที่ผ่านมา ปณท.ดบ. ได้ยึดมั่นในการพัฒนาให้บริการระบบขนส่ง และคลังสินค้าที่มีคุณภาพ ตามหลักมาตรฐานสากล โดยได้รับการรับรองมาตรฐานด้วยระบบคุณภาพ ISO9001 และมาตรฐาน GSP (Good Storage Practice)ในการจัดเก็บสินค้าโดยมีการบริหารผ่านระบบการจัดการสินค้าหรือ WMS ( Warehouse Management System) ที่ทันสมัยระดับแนวหน้าของประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญในการจัดเก็บและรักษาคุณภาพของสินค้า โดยให้บริการพื้นที่ด้วยระบบการควบคุมอุณหภูมิห้องที่แบ่ง เป็นสินค้าทั่วไป และห้องอุณหภูมิพิเศษสำหรับสินค้าพิเศษ อย่างสินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ได้ผ่านการตรวจประเมินต่ออายุและรับรองมาตรฐานจากหลายแห่ง ได้แก่ ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001: 2015 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001: 2015 และหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการจัดเก็บและจัดส่งยา (GSP/GDP)จากบริษัท ยูไอซี เซอร์ติฟิเคชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :