เชียงใหม่"โควิดแตก"อีก3คลัสเตอร์"ที่ทำงาน-งานศพ-จัดเลี้ยง"

24 เม.ย. 2564 | 05:52 น.
อัปเดตล่าสุด :24 เม.ย. 2564 | 12:52 น.

    เชียงใหม่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงจากวันก่อนหน้า แต่พบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหม่อีก 3 กลุ่ม "ที่ทำงาน-งานศพ-จัดเลี้ยง"  เกิดจากความสนิทสนมคุ้นเคยจนไม่ระวังตัว เรียกร้องสวมหน้ากาก งดพฤติกรรมใกล้ชิด

เชียงใหม่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงจากวันก่อนหน้า แต่พบการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหม่อีก 3 กลุ่ม "ที่ทำงาน-งานศพ-จัดเลี้ยง"  เกิดจากความสนิทสนมคุ้นเคยจนไม่ระวังตัว เรียกร้องสวมหน้ากาก งดพฤติกรรมใกล้ชิด

วันที่ 23 เม.ย. 2564  ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)เชียงใหม่ ร่วมแถลงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ 
นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าฯ และดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สสจ.เชียงใหม่ แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19     

นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยถึงสถานการณ์ของการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า วันนี้ยอดตัวเลขของผู้ป่วยรายใหม่ลดลงจากเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันจากการตรวจหาผู้สัมผัสรวมทั้งพบผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆ พบว่า มีการแพร่ระบาดของเชื้อในพื้นที่หลายอำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่  เช่น ที่สถานปฏิบัติธรรม ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่  ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อำเภอดอยสะเก็ด หรือที่สถานที่รับเลี้ยงเด็กมูลนิธิในอำเภอเมืองเชียงใหม่  
    

ทั้งนี้พบว่า สาเหตุการติดเชื้อมาจากการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งมาจากต่างครอบครัว มีผลทำให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง  และขอความร่วมมืองดการจัดกิจกรรมใด ๆ ที่จะต้องรวมกลุ่มคน  โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประชุม ทบทวน ติดตามการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 25 อำเภอ ตามข้อสั่งการของส่วนกลาง ในการสอดส่องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการมั่วสุมลักลอบเล่นการพนัน  การสังสรรค์ของคนหมู่มาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 แบบกลุ่มก้อน โดยจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่
    

ด้าน ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) เชียงใหม่ เปิดเผยถึงจำนวนผู้ป่วย โควิด - 19  ของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ข้อมูลที่นำมารายงานในทุกวันนั้น  เป็นข้อมูลจริงจากการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งวันนี้พบยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มีจำนวน 150 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,970 ราย กำลังรักษาตัวอยู่ 2,567 ราย และรักษาหายแล้ว 403 ราย ซึ่งรักษาหายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันก่อนหน้านี้ 2 เท่า 
    

ส่วนการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงได้ดำเนินการตรวจไปแล้ว 47,241 ราย พบผู้ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 6.36 โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชายและจำนวนผู้ป่วยจากการติดเชื้อในสถานบันเทิงลดลง จาก 50 % เหลือประมาณ 46.7 % แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการสัมผัสในครอบครัวเพิ่มขึ้นจาก 15.00 % เป็น 15.4 % รวมทั้งการสัมผัสในชุมชน การสัมผัสในที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน 
    

โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ (คลัสเตอร์ใหม่) มีจำนวน 3 คลัสเตอร์ด้วยกัน คลัสเตอร์ที่หนี่ง  เป็นการแพร่ระบาดในหน่วยงานแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในแผนกเดียวกัน มีการติดเชื้อทั้งหมด 13 คน จากบุคลากรในแผนก 80 คน โดยติดเชื้อมาจากการไปเที่ยวสถานบันเทิงเมื่อตอนต้น ๆ ของช่วงการแพร่ระบาดในระลอกเดือนเมษายน หลังจากนั้นก็ได้ไปทำงานโดยที่ไม่มีอาการและไม่ทราบว่าติดเชื้อ และมีการรับประทานอาหารและการประชุมร่วมกัน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดภายในหน่วยงานขึ้น
    

คลัสเตอร์ที่สองเป็นคลัสเตอร์จากงานศพ ในอำเภออมก๋อย เป็นการแพร่ระบาดจากการติดเชื้อในอำเภอเมืองเช่นกัน และกลับบ้านไปร่วมงานศพ ทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 7 คน ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคของอำเภออมก๋อย ได้คัดกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำ ได้ทั้งหมด 200 คน จะได้ทำการตรวจคัดกรองต่อไป 
    

สำหรับคลัสเตอร์สุดท้าย เป็นบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการติดเชื้อจากงานเลี้ยงในบริษัท ในกลุ่มพนักงาน 60 คน พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 25 คน 
    

 

ส่วนสถานการณ์จาก 3 กลุ่มที่ติดเชื้อโควิด- 19 ก่อนหน้านี้  สำหรับกลุ่มสถานปฏิบัติธรรม ตำบลป่าแดด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 18 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามทั้งหมดแล้ว ส่วนกลุ่มคลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กเทศบาลตำบลแม่คือ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มในส่วนของกลุ่มครอบครัวของเด็กเล็ก อีก 6 ราย และกลุ่มคลัสเตอร์ในเรือนจำกลาง อำเภอแม่แตง พบผู้ติดเชื้อจำนวน 17 ราย โดยเป็นผู้ต้องขังแรกรับ ที่พบจากการตรวจในระหว่างกักตัวตามมาตรการ 14 วัน ซึ่งได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ 
    

จากทั้ง 6 คลัสเตอร์นี้จะเห็นได้ว่า ส่วนมากเกิดจากความสนิทสนมของผู้ร่วมงาน หรือคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนที่ทำงาน หรือเพื่อนบ้านเดียวกัน ทำให้ละเลย ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค จึงเป็นที่มาของการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในหลายๆ คลัสเตอร์ดังกล่าว
    

ดังนั้น จึงต้องมีการป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัย 100% หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันในกลุ่มเพื่อน เพื่อความปลอดภัย ในส่วนของการจัดงานต่าง ๆ อาทิ งานมงคล งานอวมงคล หากสามารเลื่อนได้ขอแนะนำให้เลื่อนออกไปก่อน หากมีความจำเป็นที่เลื่อนไม่ได้ ต้องมีการควบคุมคนที่เข้าร่วมงานให้ต่ำกว่า 50 คน 
    

กรณีที่มีการสอบถามถึงการดูแลผู้ป่วยอื่นๆ หรือผู้ป่วยทั่วไปในโรงพยาบาลนั้น ทางสาธารณสุขขอยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากผู้ป่วยที่เป็นโรคอื่น ๆ และโรคติดต่อนั้นมีจำนวนลดลง จากการที่สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นโรคอุจจาะร่วง ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และมือเท้าปาก ในส่วนของผู้ป่วยหนักก็ยังมีตามปกติ โดยโรงพยาบาลทุกแห่งจะมีการจัดทีมแพทย์และพยาบาล ในการอยู่เวรดูแลรักษาผู้ป่วยอื่นๆ อย่างเพียงพอ
    

กรณียาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด รวมไปถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเตียงรักษาผู้ป่วยนั้น ยืนยันว่าขณะนี้มีเพียงพอและสามารพบริหารจัดการได้
    

ในส่วนระบบของการรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษานั้น ผู้ป่วยจะต้องได้รับการประเมินอาการจากโรงพยาบาลสนามก่อน จึงจะเข้ามารักษาในโรงพยาบาลสนาม โดยจะมีการจัดรถของโรงพยาบาลสนามเข้าไปรับ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ช่าวที่เกี่ยวข้อง