วันนี้ (22 กรกฎาคม 2563) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ "ข้อเสนอต่อรัฐบาลหาทางออกของประเทศ" ว่า ต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ห่วงใยรัฐบาลและประเทศชาติ ซึ่งข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ตนเองมั่นใจว่านายกฯ รับฟังอย่างแน่นอน เพราะนายกฯ ได้ย้ำตลอดว่าพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ไม่เคยปฏิเสธความคิดใดที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง
แต่ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่ให้นายกฯ รับฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน และใช้ความอดทนในการแก้ไขปัญหา งดใช้กำลังและความรุนแรง อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรูนั้น ข้อนี้ตนเองเห็นว่า ที่ผ่านมาไม่เห็นว่า นายกฯ ไม่ฟังเสียงใคร นายกฟังเสียงและความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ของทุกคนและไม่เคยคิดที่จะใช้ความรุนแรงกับกลุ่มใด ใช้หลักการประนีประนอมตลอดมา นายกฯ ไม่เคยมองใครเป็นศัตรู แต่ตรงกันข้ามยังอยากให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งฝ่ายการเมืองช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วยซ้ำ
“นายกฯ มองทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่คิดว่าเป็นศัตรูมาจากไหน ซึ่งนายกฯ และรัฐบาลต่างหากที่ถูกคนฝ่ายต่อต้านบางกลุ่มจ้องคิดทำลายแต่เห็นเป็นศัตรูพยายามยั่วยุก่อกวนตลอดเวลา เพื่อให้เสียสมาธิในการทำงาน ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง”
ขณะข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มองว่าขณะนี้ได้มีกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ซึ่งในนั้นมีตัวแทนมาจากพรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมือง ทั้งส.ส. ฝ่ายค้านและ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิทางการเมือง ซึ่งนายกฯ ไม่เคยไปก้าวก่ายการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ใด ๆ ทั้งสิ้น
ทางพรรคเพื่อไทยสามารถนำเสนอประเด็นที่ต้องการแก้ไขได้อยู่แล้วส่วนข้อที่ขอให้อำนาจแก่ประชาชนที่ทำมาหากิน งดเว้นการต้องขออนุมัติ อนุญาตในการประกอบกิจการต่าง ๆ และข้อเสนอให้ประชาชนมีอำนาจในการรวมตัวเพื่อการทำมาหากินนั้น ที่ผ่านมานายกฯ ได้ให้ความสำคัญ และหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง และหากมีข้อเสนอใด ๆ เข้ามา นายกฯ พร้อมรับฟัง และช่วยเหลือภายใต้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเต็มที่
นอกจากนี้รัฐบาลยังได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่แล้ว ทั้งมาตรการด้านภาษี มาตรการด้านการลดต้นทุน และมาตรการเข้าถึงแหล่งเงินใหม่ หรือแม้แต่เอสเอ็มอีบางรายที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินใหม่ นายกฯ ก็ยังพิจารณาหามาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในขณะนี้ไปก่อน
"ผมต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยและเห็นว่า ทางพรรคเพื่อไทย มีข้อเสนอแนะที่ดี ที่เป็นประโยชน์มีเนื้อหาสาระก็สามารถนำเสนอได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะนายกฯ มองว่า ประเทศนี้เป็นของทุกคน ไม่ใช่เป็นของใครคนใดคนหนึ่งหรือของพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง นายกฯไม่เคยคิดเอาบ้านเมืองมาเล่นเดิมพันการเมือง จึงได้พยายามขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันรวมพลังขับเคลื่อนประเทศร่วมกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน
ดังนั้น ถึงเวลาที่จะต้องช่วยกันประคับประคองประเทศชาติและประชาชนไปด้วยกัน คงไม่มีใครอยากเห็นบ้านของตัวเองพลังทลายด้วยฝีมือคนที่อาศรัยอยู่ในบ้านเดียวกัน คงไม่มีใครอยากเห็นคนในครอบครัวเดียวกันลำบากเดือดร้อน จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยและคนไทยทุกคนหันมาร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อก้าวไปสู่การ "รวมไทย สร้างชาติ" ตามแนวทางของนายกฯ และรัฐบาลประเทศชาติประชาชนจะพบแต่ความสงบสุข อยู่ดีกินดีแน่นอน จะได้ลดความขัดแย้งและนำไปสู่ทางออกประเทศร่วมกันตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่ได้แถลงการณ์มา ทั้งนี้ทั้งนั้นพรรคเพื่อไทยต้องจริงใจและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลเช่นกัน" นายสุภรณ์ ระบุ