พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีตคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เป็นนักนิติวิทยาศาสตร์ ตอบได้ไง? "สับสน" ขอกลับความเห็นเรื่องความเร็ว ใครสั่ง? ใครใช้? ใครกดดัน? หรือมีเทพองค์ใด? มีมารตนใด? หรือมีปัจจัยอะไรจูงใจ.........
-------------------------
"การปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม" รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติ ให้นำงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ มาใช้ในการสืบสวนสอบสวน อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องให้มีหน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์ มากกว่าหนึ่งหน่วยงาน(เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก)
--------------------------
อันว่า พยานความเห็น พยานผู้เชี่ยวชาญ / พยานผู้มีความรู้เชี่ยวชาญ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๓ บัญญัติรองรับมานานแล้ว โดยให้รับฟังพยานหลักฐานประเภทนี้ประกอบ การสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือพิจารณาคดี กำหนดให้ผู้เชี่ยวชาญทำความเห็นเป็นหนังสือฯ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน่วยงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนมาก แบ่งเป็น
> ด้านพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ตรวจที่เกิดเหตุ พิสูจน์วิถีกระสุน ทิศทาง ระยะทาง ความเร็วรถ อัตลักษณ์บุคคล ฯลฯ บุคลากร จึงประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ ทั้งนักฟิสิกส์ เคมี ชีวะ วิศวะ
> ด้านนิติเวช เป็นงานด้านพิสูจน์สาเหตุการตาย บาดแผล เวลาตาย บุคคลากรจะเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านนิติเวช
งานทั้งสองเป็นงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่มีผู้เชี่ยวชาญ ที่จะร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ และศพ เพื่อสรุปความเห็นตามอำนาจหน้าที่ส่งให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี(ตามมาตรา ๒๔๓ ) ดังนั้นงานทั้งสองด้านจึงเสมือนผู้ช่วยพนักงานสอบสวนในการที่จะทำความเห็นเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงการกระทำความผิด และพิสูจน์ถึงตัวผู้กระทำความผิด
ความเห็นของนักนิติวิทยาศาสตร์(นักวิทยาศาสตร์และแพทย์นิติเวช) จึงเป็นพยานความเห็นที่มีความถูกต้อง ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องการพิสูจน์ ทดลอง ตามทฤษฎี ในทางวิทยาศาสตร์ หรือ ทางการแพทย์ 1 + 1 = 2 กรดทำปฏิกิริยากับด่าง ต้อง ได้เกลือกับน้ำ ไม่มีทางที่จะได้ก้อนหิน ไปได้........
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รอคำตอบจากมโนสำนึกของ "คณะกรรมการอัยการ"
อสส. สั่งสอบ "เนตร นาคสุข" ปมสั่งไม่ฟ้องคดี"บอส อยู่วิทยา"
ยุติธรรมอำพราง “คดีบอส” ฟ้าผ่าใส่ “สำนักงานอัยการ”
พลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน จัดหนักสตช.คดีทายาทกระทิงแดง ถึงเวลาปฏิรูปแล้วหรือยัง?
ความจำเป็น สำคัญประการหนึ่งของการทำความเห็นในงานนิติวิทยาศาสตร์ก็คือ การต้องไปร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ การร่วมตรวจชันสูตรพลิกศพด้วยตนเอง ไม่ใช่ดูจากภาพถ่าย ไม่ใช่ดูจากคลิป ฟังเขาเล่า แล้วเอามาคิดคำนวณทำความเห็น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะละม้ายใกล้เคียงกับหมอดูมากกว่า
---------------------------
คดี "บอส กระทิงแดง" เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น กับพวกจากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ไปร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ สองประเด็นสำคัญที่ต้องทำความเห็น คือ ความเร็วของรถเฟอรารี่ของเจ้าบอสขณะที่ชน กับลักษณะการชน (ชนท้ายหรือชนข้าง) และกระผมจำได้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำ MOU กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มาเป็นที่ปรึกษาทางด้านคดีจราจรกันมานานแล้ว(ก่อนกระผมเกษียณอายุราชการเสียด้วยซ้ำ)
คดีนี้ รศ.ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงมาร่วมตรวจและทำความเห็น และก็ได้ผลตรงกันที่ 177 กม./ชม. ซึ่งก็แปลว่า รศ.ดร.สธนฯ ในฐานะที่ปรึกษาต้องทำความเห็นมาให้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ฯ กับพวกนำมาประกอบความเห็นเข้าสู่สำนวนมาตั้งแต่แรกแล้วและคงไม่ต้องใส่ความเห็นของ รศ.ดร.สธนฯ โดยตรงเข้าไว้ในสำนวน(ซึ่งก็มิใช่เรื่องผิดปกติ)เพราะท่านอยู่ในฐานะที่ปรึกษาจึงไม่น่าที่จะนำมาอ้างว่าเป็นพยานหลักฐานใหม่ได้
หลายปีต่อมา ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ก็อุบัติขึ้น ใช้การตรวจพิสูจน์ความเร็วรถเจ้าบอส โดยอาศัย "หลักของผมเอง"(ตอบคำถามสื่อ) โดยดูจากคลิปบันทึกภาพเหตุการณ์(ไม่ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุ) แล้วออกความเร็วมา 76 กม./ชม. และขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ เปลี่ยนความเห็นใหม่จากเดิม 177 กม./ชม. เหลือ 79.23 กม./ชม.( แค่ 79 เศษ ไม่ถึง 80 จึงไม่เกินที่กฎหมายกำหนด และมีจุด 23 ดูดีน่าเชื่อถือ..) ใครจะเชื่อก็เชิญ.....
ต่อมาเมื่อเรื่องมันแดง มันแรง มันร้อน ถูกสังคมตรวจสอบ เจ้าตัวออกมาตอบขอกลับความเห็นไปใช้ความเร็ว 177 กม./ชม. ตามความเห็นเดิม โดยให้เหตุผลว่า "สับสน" มันจะง่ายเกินไปละมั้ง!! ถ้าจะตอบว่า "สับสน" แล้วจบ แค่นี้.......
ใคร? ทำอะไร? ที่ไหน? เมื่อไหร่? อย่างไร? มีเทพองค์ใด ? มีมารตนไหน? มีปัจจัยอะไร? ที่ทำให้หลักการทางวิทยาศาสตร์ถึงกับ "สับสน" จากที่กรดทำปฏิกิริยากับด่าง ได้เกลือ กับ น้ำ กลับกลายเป็นได้ "ยาชูกำลัง" ไปเสียชิบ!!!
แล้วความน่าเชื่อมันจะเหลืออยู่อีกหรือ? (ทั้งความน่าเชื่อถือในตัวคน ในคดี และในหน่วยงานทั้ง พฐ.และ ตร.) ขอตั้งคำถามกับบ้านหลังเดิมของกระผมว่าจะดำเนินการปัดกวาดสิ่งโสโครก ในบ้านหลังนี้อย่างไร? หรือปล่อยให้มันจบไปด้วยคำแก้ตัวสองพยางค์ นั้น
อีกประเด็นหนึ่ง คือชนท้าย หรือชนข้าง ประเด็นนี้ก็ถือว่าสำคัญมากและผู้ชำนาญการก็ได้ให้ความเห็น มีการจำลองเหตุการณ์ วัดขนาด เทียบเคียงแผล(ความเสียหายของรถ) ชนท้ายก็คือ ชนท้าย แม้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ก็เป็นฝ่ายประมาทเพราะกฎหมายจราจร บัญญัติให้รถคันหลังเว้นระยะห่างจากคันหน้าในระยะที่ปลอดภัย(รถคันหลังต้องระวังคันหน้า) เลยเกิดพยานกลับชาติมาเกิด 2 ปาก มายืนยันว่านายดาบขี่รถปาดหน้าซะงั้น!!! รายงานการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันไว้ชัดว่าชนท้ายหายไปไหน? ทำไมไม่พูดถึงประเด็นนี้กัน
------------------------
จากที่พยานหลักฐานด้านนิติวิทยาศาสตร์ เป็นพยานที่ไม่รู้จัก ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับคู่กรณีฝ่ายใดมาก่อน ยืนยันความเห็นตามหลักวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ย่อมมีน้ำหนักในการรับฟัง แล้วยังจะปล่อยให้เกิดการทำลายความน่าเชื่อถือ....เพียงแค่พยักหน้าอืออือ แล้วจบกันแค่นี้หรือ สมควรหรือไม่ที่จะลากตัวไอ้โม่ง ออกมา กระชากหน้ากากตัวละครออกมาให้สังคมรับรู้ ลงโทษให้สาสม เพื่อเรียกความเลื่อมใสศรัทธากลับมาสู่องค์กรตำรวจของเรา.........
--------------------------------
กระผมเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจะมีโทษที่จะลงได้ ทั้งปรับ/ห้ามลงเล่น/ห้ามลงเล่นตลอดชีวิต คล้ายๆโทษทางอาญา (ปรับ/จำคุก/ประหารชีวิต) ขณะเขียนบทความอยู่นี้มีข่าวว่า รองอัยการสูงสุดท่านที่สั่งไม่ฟ้อง คดีบอสกระทิงแดง ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการจะเป็นการลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ หรือหลบหนีการที่จะถูกตั้งกรรมการทางวินัยที่คาดว่าจะตามมาเร็วนี้ (พูดง่ายๆ ฟังง่ายๆ ว่าเพื่อหนีความผิด) หรือจะโดยเหตุผลกลใดก็ช่างเถอะ!!!!
แต่มันคงไม่ใช่การแก้ปัญหา และคงไม่ใช่คำตอบที่สังคมต้องการ เปรียบเทียบกับเพียงแค่นักมวย นักฟุตบอล ที่ล้มมวย ล้มบอล จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ซึ่งมีโทษถึงจำคุก แค่นั้นยังไม่พอยังจะถูกห้ามชก ห้ามเล่น ไปตลอดชีวิต.... เรียกว่าสูญพืชสูญพันธุ์กันไปเลย สำหรับบุคคลากรในกระบวนการยุติธรรมละ แค่ไหนจึงจะเหมาะสม แค่ไหนจึงจะสาสมคงไม่ใช่เพียงเก็บเสื่อเก็บหมอนกลับบ้านไปแล้วจบกัน .........
ขอตั้งคำถามอีกทีเถอะ !!!
ถึงเวลา "ปฏิรูปตำรวจ" "ปฏิรูปการสอบสวน" "ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม" แล้วหรือยังครับ ถ้าเห็นว่า "สมควร" ถามต่ออีกนิดว่า จะรออะไรอยู่ในเมื่อร่าง พ.ร.บ.ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการสอบสวน และแผนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทำเสร็จตั้งนานสองนานจนจะถือเป็นของเก่าอยู่แล้วครับท่าน
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน
กรรมการปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม
๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๓