เมื่อเวลา 08.00 น. ที่โรงแรม สตาร์ คอนเวนชั่น จ.ระยอง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนักเรียนภายในพื้นที่ในโรงเรียนว่า การแสดงออกถือเป็นสิทธิของบุคคลอะไรที่สร้างความแตกแยกที่ไม่เหมาะสมก็อยากให้คำนึงถึงจุดนี้ ถ้าหากเป็นการก้าวร้าวหรือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมก่อให้เกิดความแตกแยก ผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถเข้าไปพูดคุยได้และตักเตือนได้ ไม่ใช่ว่ามีสิทธิเสรีภาพแล้วจะทำทุกอย่างได้ตามใจชอบเพราะเราก็เปิดสถานที่ให้มีการพูดคุยกันแล้วและมีการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางสภานักเรียน มีกรอบเวลาที่ชัดเจนให้พูดคุยตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ก.ย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ธนกร"วอนม็อบนศ.ยุติชุมนุมหลังรัฐเร่งสนองข้อเรียก
จัด400เทศกิจ-ตำรวจดูแลนักศึกษาจัดกิจกรรมลานคนเมือง
ศาลให้ประกันตัว 9 แกนนำ เยาวชนปลดแอก ห้ามทำผิดซ้ำ
กระทรวงศึกษาเปิดเวทีโรงเรียนในสังกดรับฟังความคิดเห็น
ในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้แสดงความคิดเห็นจากนั้นจะรวบรวมมาเป็นภาพรวมของทั้งประเทศ จากนั้นจะนำประเด็นที่หลักที่เป็นไฮไลท์ของนักเรียนมาจัดลำดับโดยดูความต้องการของนักเรียนส่วนใหญ่ให้อยู่ในลำดับต้น แล้วมาพิจารณาดูว่าเรื่องใดสามารถแก้ไขได้โดยต้องดูความเหมาะสมประกอบกันด้วยแต่เรื่องใดยังไม่ถึงเวลาถ้าทำไปแล้วเกิดผลกระทบในวงกว้างก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจเพื่อให้เกิดการสื่อสารสองทาง เมื่อรับฟังแล้วนำไปแก้ไขแล้วสื่อสารกลับผมจึงเห็นว่าควรพูดคุยกันโดยสันติวิธีโดยที่ไม่ให้ฝ่ายที่เห็นต่างเกิดความรู้สึกอึดอัดซึ่งเป็นแนวทางที่น่าจะปฏิบัติกันทั่วโลกและเป็นหนึ่งในวิธีที่เยาวชนน่าจะใช้เวทีนี้ในการแสดงออก"รมว.ศึกษา กล่าว
เมื่อถามว่าจะให้อำนาจผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้จัดระเบียบโดยที่กระทรวงจะยังไม่เข้าไปสั่งการอะไรใช่หรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ในประกาศกระทรวงที่ออกไปเปิดโอกาสให้ผู้อำนวยการโรงเรียนบริหารจัดการผ่านคณะกรรมการสถานศึกษา สภานักเรียน ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการแสดงความคิดเห็นภายในช่วงเวลาที่วางไว้
เมื่อถามว่ามีข้อร้องเรียนว่ามีการใช้เรื่องการตัดคะแนนและทุนการศึกษามาเป็นเงื่อนไขต่อการแสดงความคิดเห็นและการพูดคุยของนักเรียน นายณัฏฐพล กล่าวว่า “ไม่ และเท่าที่ได้รับฟังมาทุกโรงเรียนก็เปิดรับฟังความคิดเห็นโดยไม่เกี่ยวข้องกับการตักเตือนหรือตักเตือนแต่อย่างใด ซึ่งการพูดคุยในโรงเรียนครูจะดูความเหมาะสมอยู่แล้วผมมั่นใจจากที่เช็คมาหลายสิบโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูมีแนวทางที่ต่างกันไป บางคนรับฟังแล้วแนะนำให้นักเรียนไปทำกิจการเพิ่มเติมว่าเข้าใจเรื่องที่เรียกร้องจริงหรือไม่ เช่น การเรียกร้องเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็ให้นักเรียนไปเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญ 40 กับ 50 60 แล้วมาพูดคุยกันว่าความเห็นของนักเรียนแตกต่างกันอย่างไร ถือเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ เพราะบางครั้งนักเรียนก็ไม่รับทราบรายละเอียดของรัฐธรรมนูญที่แตกต่างกันในแต่ละฉบับถือเป็นความร่วมมือของโรงเรียนและนักเรียนหาความรู้ที่แท้จริง
"ยืนยันว่าจะไม่มีการคุกคามเรื่องคะแนนหรือความรู้สึกที่ทำให้นักเรียนอึดอัด และไม่คิดว่านักเรียนจะอึดอัดถ้ามีเวทีแสดงออกที่ชัดเจนผ่านระบบของโรงเรียนที่มีสภานักเรียน มีผู้อำนวยการ ทั้งนี้หากใครมีข้อมูลว่าสถานศึกษาใดไปดำเนินการในลักษณะไม่เหมาะสมให้แจ้งมาที่กระทรวงได้”