เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัว “คณะราษฎร 2563” นัดชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 โดยแกนนำม็อบนักเรียน นิสิต นักศึกษา ภาคประชาชน ประกอบด้วยน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือปอ นายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรืออั๋ว อดีตประธานสนท. นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือ ฟอร์ด น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ ตัวแทนกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย ในนาม "คณะราษฎร 2563" แถลงแนวทางกิจกรรมการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นี้
นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี อ่านแถลงการณ์ใจความระบุว่า คณะราษฎรได้กำเนิดอีกครั้ง เพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนสู่ปวงชนชาวไทย รัฐบาลประยุทธ์ บริหารประเทศเข้าสู่อำนาจอย่างหลอกลวง เศรษฐกิจกำลังพังพินาศ หลายล้านชีวิตต้องอดอยาก ชนชั้นศักดินา นายทุนและนายพล สุขสบายบนความทุกข์ของประชาชน ขอประกาศชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 14 ต.ค. 2563 และมีข้อเรียกร้อง 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกไป 2.เปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน และ 3.ปฏิรูปสถาบันให้กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ขณะที่นายอานนท์ นำภา ระบุว่า รูปแบบการชุมนุมวันที่ 14 ต.ค. 2563 ได้นัดหยุดงาน และหยุดเรียน ขอนัดให้นักเรียนนักศึกษามารวมกันเวลา 14.00 น. ที่ร้านแมคโดนัลด์ ก่อนทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งรัฐได้นำต้นไม้ที่ไม่ได้มีความสวยงามไปตกแต่ง ในวันนั้นจะไม่มีสิ่งใดมากีดขวางอนุสาวรีย์ฯ ทั้งสิ้น เราจะยกต้นไม้คืนกทม.ทั้งหมด จากนั้นจะชุมนุมปราศรัยพร้อมปักหลักค้างคืน โดยใช้วิธีการกินข้าวทีละคำ จะค้างอย่างน้อยหนึ่งคืน อย่างมากก็เป็นเดือน คาดว่าจำนวนคนมาร่วมชุมนุมจะไม่น้อยไปกว่าวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายอานนท์กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ยังไม่มีกำหนดทั้งสถานที่ การเคลื่อนขบวนและวันเวลายุติกิจกรรม เบื้องต้นเราได้แจ้งชุมนุมกับตำรวจไปแล้ว หากเจ้าหน้าที่ต้องการเจรจา เราก็พร้อมตั้งโต๊ะพูดคุยกัน หากรัฐบาลยังคงไม่ตอบรับข้อเสนอ ก็จะมีมาตรการชุมนุมเชิงกดดันต่อไป ส่วนในวันชุมนุมนั้น หากมีขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่าน เรายืนยันจะไม่ไปขวางกั้น เชื่อว่าช่วงเวลาที่ขบวนผ่าน ประชาชนยังไม่น่าเต็มถนน รถทั่วไปน่าจะผ่านได้ ขบวนก็น่าจะผ่านได้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมเรามีวุฒิภาวะที่สูง
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่มไม่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ก็ดีแล้ว แล้วดีหรือไม่ เมื่อถามว่าจะทำให้ลดปริมาณผู้เข้ามาร่วมชุมนุมได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงมีรายงานเข้ามาอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ ก็ไม่รู้ แต่ก็ดีขึ้น
เมื่อถามว่ามีบางส่วนแสดงตัวว่าจะไม่สนับสนุนการชุมนุมอีกต่อไป พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ดีๆ ก็ไม่สนับสนุนดีหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีหมู่บ้านคนเสื้อแดง และล่าสุดฝ่ายความมั่นคง มีการรายงานหรือไม่ว่าช่วงนี้ได้หายไปแล้ว รองนายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการทุกขั้นตอน ซึ่งพยายามจะไม่ให้มีอีกแล้ว
ขณะที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ใครคิดชุมนุมก้าวล่วงสถาบัน คนส่วนใหญ่จะไม่เข้าร่วม และการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นเชื่อว่ามีเป้าหมายเพื่อก้าวล่วงสถาบัน ซึ่งขณะนี้อดีตคนเสื้อแดงหรือแกนนำคนเสื้อแดงมีการยืนยันว่าจะไม่เข้าชุมนุม แต่ยังมีกลุ่มพรรคการเมือง เช่น อดีตผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ที่ปราศรัยในพื้นที่ต่างจังหวัดพยายามปลุกระดมให้คนมาร่วมชุมนุม
นายสุภรณ์ กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์มาแล้ว การชุมนุมไม่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น มีแต่ซ้ำเติมประเทศชาติ ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย อย่างไรก็ตาม เราจะไม่ประมาทกับการชุมนุมครั้งนี้ จะดูแลทุกอย่างให้รอบคอบ ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ ผู้ชุมนุม และป้องกันอย่างเต็มที่ไม่ให้มีมือที่สามมาสร้างความวุ่นวาย รวมถึงขอผู้ชุมนุมอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมายและรุนแรง
การชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดทำการปกติ จึงขอให้ผู้ชุมนุมตระหนักถึงตรงนี้ด้วย และการก้าวล่วงสถาบันเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ รวมถึงไม่ควรเข้าไปในสถานที่ราชการ จนทำให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตนขอบอกไว้ว่าชีวิตความเป็นแกนนำเหมือนตนที่สุดแล้วต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ถูกดำเนินคดี และปัจจุบันแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนได้รับพระราชทานอภัยโทษ
เมื่อถามว่า ด้านการข่าวมีใครให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้บ้าง นายสุภรณ์กล่าวว่า ด้านการข่าวมีข้อมูลว่ามีอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. อดีตพรรคการเมือง ไปชักชวนปลุกระดมจะจ่ายค่ารถ ค่าเรือ ให้มาร่วมชุมนุม แต่หลายคนบอกว่าอยากได้เงิน แต่ไม่สามารถมาร่วมชุมนุมได้ เพราะรู้ว่าการชุมนุมครั้งนี้ ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย จึงไม่เดินทางมากัน
เมื่อถามว่า สามารถเปิดเผยผู้ที่ชักชวนประชาชนได้หรือไม่ นายสุภรณ์กล่าวว่า เป็นอดีตนักการเมือง อดีต ส.ส. รวมถึง ส.ส. ปัจจุบัน ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ซึ่งเรามีหลักฐาน กำลังรวบรวมอยู่ ถ้าถึงขนาดเปิดเผยตัวบุคคลได้จะนำมาเปิดเผย และใครพบเห็นขอให้ถ่ายคลิปถ่ายวิดีโอไว้ด้วย เราจะนำมาเป็นหลักฐานประจานว่าคนเหล่านี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยุยงปลุกระดมให้ออกมาล้มล้างสถาบัน ส่วนเรื่องการดำเนินคดีจะว่าไปตามกระบวนการ ใครที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้สนับ สนุนชักจูงคนที่เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดี