"แรมโบ้"กระตุกจิตสำนึก“ธนาธร”อดีตเคยโกหกปัจจุบันก็ไม่เปลี่ยน

15 ต.ค. 2563 | 06:16 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 11:45 น.

"แรมโบ้"กระตุกจิตสำนึก “ธนาธร” ในอดีตเคยโกหกอย่างไร ปัจจุบันก็ไม่เปลี่ยน ชอบเอาดีใส่ตัวเอาให้ชั่วคนอื่น ทั้งๆ ที่ม็อบทำผิดก.ม. ยังหน้าด้านพูดไปได้ว่าชุมนุมเพื่อสิทธิเสรีภาพตามระบอบปชต. แถมยุยงให้คนชุมนุมทั่วประเทศอีก ซึ่งเข้าข่ายความผิด ม.116

 

 วันที่ 15 ตุลาคม 2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ออกคลิปเป็นแถลงการณ์ประกาศยืนข้างม็อบและเรียกร้องให้นายกฯ ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมกับให้ปล่อยแกนนำที่ถูกจับกุมตัว โดยอ้างว่าม็อบไม่มีความผิด ว่า นายธนาธร ก็ไม่เคยเปลี่ยน เคยโกหกอย่างไรก็เหมือนเดิม ครั้งที่ นายธนาธร ไม่โอนหุ้นแล้วไปสมัคร ส.ส. ต่อมามีการจัดฉากโอนหุ้นในภายหลังเพื่อตบตา กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่ นายธนาธร ทำ ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน

 

“ครั้งนี้นายธนาธร ก็หลบๆ ซ่อนๆ ทำตัวเป็นอีแอบอยู่หลังม็อบ ไปโผล่ที่สนามหลวง ไปโผล่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประโยชน์ตัวเอง แล้วก็ไปโผล่ที่ข้างทำเนียบฯ เมื่อคืนนี้ก็เพื่อประโยชน์ตัวเอง จากนั้นกลับบ้านอาบน้ำเปิดแอร์นอนสบายใจ ปล่อยให้ม็อบนอนลำบากบนท้องถนนทั้งคืน พอเจ้าหน้าที่ทำการเคลียร์พื้นที่ จนทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ นายธนาธร ก็โผล่มา ให้ปล่อยตัวแกนนำอ้างความชอบธรรมให้กับตัวเองอีก”

 

 นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า คนทั้งประเทศเขารู้เช่นเห็นชาติว่า พฤติกรรมของนายธนาธร เป็นคนเอาแต่ได้ เห็นแก่ความสุขและประโยชน์ตนเอง เพราะนายธนาธร ไม่แน่จริงที่จะเอาตัวไปเสี่ยงกับการชุมนุมที่ผิดกฎหมายหลายฉบับ นับว่าเป็นนักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวที่ขี้ขลาดแบบมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เหมือนศรีธนญชัย

                                                           \"แรมโบ้\"กระตุกจิตสำนึก“ธนาธร”อดีตเคยโกหกปัจจุบันก็ไม่เปลี่ยน

“การที่นายธนาธร กล่าวหานายกฯ ว่าใช้อำนาจเกินเหตุนั้นไม่จริง เพราะว่าม็อบชุมนุมผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้เตือนแล้วแต่ไม่ยอมฟัง นายกฯ จึงต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ให้บ้านเมืองสงบ เนื่องจากม็อบที่ชุมนุมขัดขวางขบวนเสด็จฯ ก้าวร้าวจาบจ้วง และมีโอกาสเข้าบุกรุกทำลายทรัพย์สินราชการในทำเนียบรัฐบาล แกนนำปราศรัยใช้วาจาหยาบคายยุยงปลุกปั่น ก้าวล่วงสถาบันตลอดเวลา และพยายามยุยงให้เกิดความรุนแรง ให้เกิดความเสียหายต่อการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข”

 

นายสุภรณ์ กล่าวว่า การที่นายธนาธร ขู่ว่าหากนายกฯ ไม่ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปล่อยตัวแกนนำม็อบที่ถูกจับกุม จะทำให้มีการขยายวงชุมนุมกันทั่วประเทศนั้น นี่เหมือนกับว่า นายธนาธร กำลังยุยงปลุกปั่นประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย ขัดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 เดี่ยวคงมีคนนำคลิปนายธนาธร ไปแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายธนาธร ต่อไปอย่างแน่นอน

 

“โดยส่วนตัวผมแล้ว เห็นว่า เมื่อประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ควรเร่งรัดดำเนินคดีกับแกนนำและผู้อยู่เบื้องหลัง ตลอดจนผู้สนับสนุนม็อบในการชุมนุมก่อความวุ่นวายทั้งหมดทุกคน ไม่มีการละเว้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าไหนหรือใครก็ตาม ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่า มีใครบ้างไม่ต้องเอ่ยชื่อ อีแอบทั้งหลายอย่าปล่อยให้มาเพ่นพ่านปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมืองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพราะไม่งั้นคนเลวๆเหล่านี้จะสร้างความแตกแยกให้แผ่นดินและก้าวล่วงจวบจ้วงและคิดล้มล้างสถาบันฯไม่มีที่สิ้นสุด"