“แรมโบ้”เล็งแจ้งจับ“ธนาธร-พวก”ใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ

10 พ.ย. 2563 | 04:28 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ย. 2563 | 11:35 น.

"แรมโบ้"ซัด "ธนาธร"และพวกส.ส.ก้าวไกล ใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ กล่าวหาอันเป็นเท็จเตรียมให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลดำเนินคดี ระบุ "นายกฯตู่" ไม่เคยแทรกแซงการออกกฎหมายในสภาฯ

    

วันนี้(10 พ.ย.63) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคก้าวไกล และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ออกมาพูดถึงกรณีนายกฯ ปัดตกร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ ปิดประตูก้าวแรกปฏิรูปกองทัพ ว่า เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น แต่ นายธนาธร ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการเกณฑ์ทหารในประเทศไทยยังมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันปกป้องประเทศ  


และ แม้นายธนาธร จะมองว่าประเทศไทยจะไม่มีการสู้รบเกิดขึ้น แต่ยังต้องมีการป้องกันตามแนวชายแดน รวมถึงภารกิจในการปราบปรามยาเสพติด การค้ามนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นทหารที่ทำหน้าที่นี้ 


นายสุภรณ์ ยืนยันว่า นายกฯไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่นตามที่นายธนาธร และ ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวหา เป็นการกล่าวหานายกฯ อย่างไม่เป็นธรรม เพราะนายกฯ ไม่เคยไปก้าวล่วงหรือแทรกแซง การพิจารณาหรือลงมติในร่าง พรบ.ฉบับใดๆ ที่พิจารณาในสภาทั้งสิ้น


 

ส่วนที่นายธนาธร ระบุว่าการปฏิรูปกองทัพ ให้เป็นกองทัพที่อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน เคารพสิทธิมนุษยชน ทหารชั้นผู้น้อยได้สวัสดิการที่เหมาะสม ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสตรวจสอบได้นั้น นายสุภรณ์ ระบุว่านายธนาธร ไม่ควรมองให้ร้ายกองทัพ เพราะที่ผ่านมากองทัพก็ได้ทำงานให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด และดูแลทหารเป็นอย่างดี 


อีกทั้งการใช้งบประมาณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือหน่วยงานอื่น นายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ที่ต้องทำให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม และสั่งการในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยให้นโยบายกองทัพดูแลสวัสดิการความเป็นอยู่ทหารชั้นผู้น้อยให้ได้รับการดูแลให้ดีที่สุดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและกำลังที่สำคัญให้กับกองทัพ

 

นายสุภรณ์ ยังเห็นว่า นายธนาธร และพวกตลอดจน ส.ส. พรรคก้าวไกล หลายๆ คน ไม่ควรเอาเรื่องที่ไม่เป็นจริงกล่าวหานายกฯ ตนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายได้รวบรวมเนื้อหาทุกเรื่องราว ที่นายธนาธร และพรรคพวกได้กล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี ใส่ความอันเป็นเท็จ และมีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลและสื่อทั่วไป อันทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวนายกฯ โดยตรง  


“ที่ผ่านมานายกฯ ก็อดทนใจเย็นให้อภัยตลอดมา แต่จากนี้ไปในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ผมต้องขออนุญาตนายกฯ เพื่อมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินคดีกับคนประเภทนี้ ที่ดีแต่ชอบใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาประเภทเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ทั้งที่นายกฯ เอง เรียกร้องหาความสามัคคี สมานฉันท์ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งในประเทศ ไม่เคยตอบโต้ อดทนทุกเรื่อง จากนี้ไปผม และทีมงานฝ่ายกฎหมาย จะไม่ยอมให้นายธนาธร และพวก โจมตีนายกฯ ฝ่ายเดียวอีกต่อไป ต้องดำเนินคดีทางกฎหมายให้เข็ดหลาบ ให้หุบปากหุบคำ หยุดความก้าวร้าว ดัดนิสัยเสียบ้าง"