วันที่ 15 พ.ย. 63 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) เปิดเผยความคืบคืบหน้ากรณีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ของเครือข่ายม็อบคณะราษฎร 2563 ได้แก่ กลุ่มม็อบเฟสต์ กลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มผู้หญิงปลดแอก
ได้แบ่งการกระทำความผิดออกเป็น 3 ส่วน คือ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 15 พ.ย.63
เสนอทุบทิ้ง "อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย" ท่านใหม่ เดือด ม็อบเล่นสนุกเกิน
"คณะสิทธิราษฎร์" ชื่อใหม่ม็อบคณะราษฎร ชู 6 ข้อ ส.ส.ร. แก้รธน.ให้เป็นประชาธิปไตย
ม็อบปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคลุมผ้าขาว จี้ นายกฯ ลาออก
1.การทำร้ายร่ายกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกด้ามธงตีศีรษะ 1 นาย มีอาการปวดบวม และอีกรายถูกของแข็งกระแทกที่ใบหน้า ริมฝีปากแตก ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ซึ่งเข้าข่ายข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่, การร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 โดยตำรวจทั้ง 2 นายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์
2.การนำผ้าไปคลุมและปีนขึ้นไปบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นโบราณสถานที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครและกรมศิลปากร การทำให้เสียหายหรือทำให้เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน และ พ.ร.บ.ความสะอาด
ซึ่งขณะนี้ทางผู้ดูแลกำลังตรวจสอบความเสียหายอยู่ และจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน.สำราญราษฎร์ ต่อไป
3.กรณีผู้จัดการชุมนุมฝ่าฝืนเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานได้แจ้งไว้ และความผิดอื่นๆ เช่น การกีดขวางทางจราจร, พ.ร.บ.ความสะอาด
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด เบื้องต้นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นหน้าที่ต้องควบคุมจัดการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และปราศจากเหตุร้ายใดๆ