มติฝ่ายค้าน รับหลักการ 7 ร่างแก้รธน.

16 พ.ย. 2563 | 07:49 น.

ฉันทานุมัติ ฝ่ายค้าน มีมติ รับหลักการ 7 ร่างแก้รธน. หวัง เอื้อการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยอย่างสันติได้

16 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และนายชัยธวัช  ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ร่วมประชุมเพื่อหารือถึงทิศทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภาระหว่างวันที่17-18พ.ย. นี้  

 

ภายหลังการประชุม นายสมพงษ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้พิจารณาต่อท่าทีในการลงมติต่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ญัตติ ฝ่ายค้านมีฉันทานุมัติไปในทางเดียวกัน จะขอรวมญัตติร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ เข้าร่วมด้วยในการพิจารณาต่อที่ประชุมร่วมสภาฯ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะให้การสนับสนุน ทั้ง 7 ญัตติ

 

จากนี้จะให้แต่ละพรรคไปหารือที่ประชุมพรรคเพื่อกำหนดเป็นมติ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและบวกกับสถานการณ์อันตึงเครียด สมาชิกรัฐสภาควรต้องฟังเสียงของประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ ก็เป็นร่างที่เสนอมาจากประชาชน ไม่ได้ขัดต่อกฎหมาย ไม่ได้เป็นการขอเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งสามารถกระทำได้ตามอำนาจของสภาฯ

 

ขณะที่ นายชัยธวัธ กล่าวว่า การประชุมร่วมของรัฐสภาฯพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวันที่ 17-18 พ.ย. จะเป็นวันที่กำหนดอนาคตการเมืองไทยว่า จะมีการลงมติที่จะเอื้อต่อการเปลี่ยนผ่านประชาประชาธิปไตยเป็นไปโดยสันติหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาในวันดังกล่าว ยังต้องรอดูท่าทีส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ว่า จะตัดสินใจอย่างไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"รวมพลังประชาชาติไทย" ประกาศจุดยืน ค้านจัดทำรธน.ใหม่ทั้งฉบับ

"ศรีสุวรรณ" บุกรัฐสภา ร้องสอบรายชื่อแก้รธน.ฉบับ "ไอลอว์"

"สิระ"ประกาศคว่ำร่างแก้รธน.ฉบับไอลอว์ ชี้ มีวาระซ่อนเร้น

"ส.ว.คำนูญ" ชำแหละปมร้อน ร่างแก้รธน.ฉบับ ไอลอว์

 

 

เรายังเชื่อว่า การตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นส่วนสำคัญในการพิสูจน์ความจริงใจ มีส่วนสำคัญในการกำหนดสถานการณ์ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมทั้ง7ญัตติ ควรผ่านทั้ง 7 ฉบับ ถ้าผ่านเพียง1-2ฉบับ โดยรับหลักการเพียงมาตรา 256 อย่างเดียว เป็นการลูบหน้าปะจมูกทางการเมืองเท่านั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดคลี่คลาย  

ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นตรงกันว่าควรสนับสนุนร่างของประชาชนฉบับนี้ด้วยเหตุผล 4 ประการ คือ 1.การนำเสนอกฎหมายโดยประชาชน เป็นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นการใช้สิทธิตามอำนาจอธิปไตยที่เสนอกฎหมายผ่านรัฐสภา 2.ประชาชนมีความตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะมองเห็นปัญหาในรัฐธรรมนูญ ความเห็นของประชาชนก็สอดคล้องกับความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มองเห็นปัญหาเช่นเดียวกัน 3.หลักการร่างของประชาชนที่เหมือนกับหลักการของรัฐบาล และฝ่ายค้าน คือ เห็นว่าควรมีส.ส.ร. ขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญ และ 4.ร่างของประชาชนนี้ไม่ได้ขัดกับบทบัญญัติของกฎหมายใดเลย  

 

พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นร่างพรบ.ออกเสียงประชามติพ.ศ….ประกบกับร่างของรัฐบาล โดยในวันที่ 18 พ.ย. ฝ่ายค้านจะยื่นร่างพ.ร.บ.ประชามติของพรรคฝ่ายค้านนี้ต่อรัฐสภา เนื้อหามีสาระสำคัญที่ต่างออกไปคือ 1.ฉบับฝ่ายค้านยกเรื่องของการรณรงค์ให้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ให้สิทธิประชาชน ภาคเอกชนและพรรคการเมืองในการรณรงค์อย่างทั่วถึง  2.ควรอนุญาตให้มีการออกเสียงล่วงหน้า และต่างพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสออกมาออกเสียงให้ได้มากที่สุด 

เมื่อถามว่ามีบางฝ่ายมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นขัดกับมาตรา 49 และอาจเลยเถิดไปถึงการนิรโทษกรรมให้นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับประเทศ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องประเด็นขัดกับมาตรา 49 เป็นประเด็นเก่าที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยหยิบยกมาใช้นานแล้ว แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตรา 256 (8) ได้ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วเรื่องอำนาจของสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ไม่มีใครไปยกเลิกกฎหมายทั้งปวง มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดสุญญากาศ การที่บอกว่าจะเป็นการนิรโทษกรรมให้ใครนั้นเป็นการใส่สีตีความ และเป็นความเท็จทั้งสิ้น