จากกรณีที่เมื่อเวลา14.35 น. เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ม็อบคณะราษฎร ที่บริเวณแยกเกียกกาย ด้านหน้ารัฐสภา
จากนั้นเวลา 15.20 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงชี้แจงสถานการณ์ที่หน้ารัฐสภาถึงขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่เตือนผู้ชุมนุมแล้ว 3-4 ครั้ง เพราะมีความพยายามจะรื้อแนวกั้น เมื่อเตือนแล้วไม่ฟังครั้งแรกจึงฉีดน้ำจากน้ำเปล่าไม่มีการผสมแก็สน้ำตา แต่ผู้ชุมนุมยังไม่หยุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 17 พ.ย.63
อารักขาเข้ม ประชุมสภา จัดเรือ 20 ลำ พร้อมอพยพ ส.ส.-ส.ว.
วุ่น หน้ารัฐสภา ตำรวจฉีดน้ำใส่ม็อบคณะราษฎร หลังพยายามรื้อแนวกั้นจนท.
ประมวลภาพ วินาทีฉีดน้ำใส่ "ม็อบคณะราษฎร" หลังพยายามรื้อแนวกั้นหน้ารัฐสภา
จากนั้นจึงฉีดน้ำตามยุทธวิธี ที่มีการผสมแก๊สน้ำตา ยืนยันว่าว่าการปฏิบัติว่าไม่ใช่การสลายการชุมนุม แต่เป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ก่อนหน้านี้เริ่มมีความตึงเครียด เนื่องจากมีกลุ่มการ์ดอาสาม็อบคณะราษฎรจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวหน้าได้พยายามข้ามแนวกั้น และรื้อลวดหนามและแท่นปูนที่ตั้งขวางออก
ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้รถน้ำแรงดันสูงฉีดใส่การ์ดผู้ชุมนุม พร้อมประกาศเตือนไม่ให้เข้าใกล้รัฐสภาในรัศมี 50 เมตร แต่แนวร่วมยังคงเดินหน้าประชิดแนวกั้น เจ้าหน้าที่จึงใช้น้ำผสมสีฉีดใส่การ์ดอาสา ซึ่งมีรายงานว่ามวลชนส่วนหนึ่งได้พากันใช้ถุงสี พลุควัน ขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น