น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกเกียกกาย เขตดุสิต กทม.เมื่อวันที่17พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณหน้ารัฐสภาและขอประณามเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจกับผู้ชุมนุมเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการจงใจปล่อยให้มวลชนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาปะทะกับม็อบราษฎร จนเหตุการณ์บานปลาย มีผู้บาดเจ็บถึง 41 คน และที่สำคัญครั้งนี้มีการยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมด้วย จึงถือเป็นเรื่องที่จะต้องมีคนรับผิดชอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรุป ม็อบ-จนท.เจ็บ 55 คน จากชุมนุมแยกเกียกกายหน้ารัฐสภา
ม็อบคณะราษฎร ประชิดประตูสภา 'เพนกวิน' ลั่นไม่ขอเจรจาแล้ว
ประมวลภาพ ม็อบชนม็อบ "คณะราษฎร ปะทะ มวลชนปกป้องสถาบันฯ
ประมวลภาพ วินาทีฉีดน้ำใส่ "ม็อบคณะราษฎร" หลังพยายามรื้อแนวกั้นหน้ารัฐสภา
ตร.แจง ฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาใส่ม็อบคณะราษฎร ยันไม่ใช่สลายการชุมนุม
“รัฐบาลชุดนี้มีพฤติกรรม 2 มาตรฐานกับผู้ชุมนุมอย่างชัดเจน เพราะผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งตำรวจไฟเขียวให้เดินทางผ่านด่านแนวกั้นเข้ามาทำกิจกรรมหน้าสภาได้ แต่กับกลุ่มม็อบราษฎรตำรวจกลับใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการใช้แก๊สน้ำตาทั้งที่พวกเขามาชุมนุมด้วยความสงบเช่นเดียวกัน เพียงแต่คิดต่างจากรัฐบาลและมีจำนวนมากกว่ากลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น” น.ส.นภาพรกล่าว
น.ส.นภาพร กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการที่ตำรวจปล่อยให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งสามารถนำอาวุธทั้งมีดและปืนเข้าไปทำร้ายม็อบราษฎรถึงหน้าสภาได้ ทั้งที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์อยู่ อย่างนี้จะให้ประชาชนเข้าใจว่าอย่างไร ดังนั้นรัฐบาลต้องมีคำตอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการปล่อยให้มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ม็อบราษฎร รัฐบาลจะต้องมีคำตอบกับสังคมในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด