21 มกราคม 2564 นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีนัดแรก โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ป.ป.ท. สำนักงานจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,สำนักงานผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ,กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุม เพื่อวางกรอบการทำงานและตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายกรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับกาลรเปิดสถานที่เล่นการพนันจนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และประสานงาน
ตลอดจนให้คำแนะนำการดำเนินการแก่เจ้าหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำผิดไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาลงโทษ และเสนอมาตรการป้องกันหรือการดำเนินการอื่นที่เหมาะสม ซึ่งในที่ประชุมได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ที่สำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอข้อมูล รวมทั้งการรับเรื่องร้องเรียนชี้เบาะแสจากประชาชนแล้วรายงานทางลับให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการตามความจำเป็นหรือทุกรอบ 30 วัน
หลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ แถลงว่า กรอบการทำงานจะเน้นการตรวจสอบสถานที่ที่มีการชุมนุมมั่วสุมเล่นการพนันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 โดยได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม และแก้ปัญหาบ่อนที่ลักลอบเล่นการพนัน ได้แก่
1.คณะอนุกรรมการตรวจสอบเปิดบ่อนการพนัน โดยจะเน้นการตรวจสอบว่าพื้นที่ใดมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน และตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้อง มี พล.ต.ท.สราวุฒิ การพาณิช จเรตำรวจ เป็นประธาน
2.อนุกรรมการด้านการข่าว และสืบสวนเส้นทางการเงิน มี พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นประธาน
3.คณะอนุกรรมการเสนอแนะมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาการพนัน มี นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน
สำหรับคณะอนุกรรมการทั้ง 3 ชุดนี้จะปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่ได้รับมอบหมายตามแนวภายใต้นโยบายของคณะกรรมการชุดใหญ่ และมีหน้าที่เข้าไปกำกับหน่วยปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เช่น ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าปฏิบัติตามหน้าที่หรือไม่ มีพื้นที่ใดเปิดบ่อนใหม่ อีกทั้งหน่วยต้นสังกัดมีการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งหน้าที่ของอนุกรรมการแต่ละชุดจะเข้าไปตรวจสอบและให้คำแนะนำเท่านััน แต่ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายให้อยู่ในอำนาจขององค์กรใต้สังกัด
หลังจากอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจะนำมาเสนอกับคณะทำงานชุดใหญ่เพื่อรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อประสานกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และไม่ต้องกังวลว่าจะมีการปกปิดข้อมูล เพราะจะเป็นรายงานลับส่งตรงนายกฯ ส่วนบ่อนออนไลน์จะต้องรอข้อมูลในสัปดาห์หน้า ซึ่งนัดประชุมครั้งต่อไปในวันที่พฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. เวลา 10.00น. ที่สำนักงาน ป.ป.ท.
ด้าน พล.ต.ท.สราวุฒิ การพาณิช จเรตำรวจ คณะอนุกรรมการตรวจสอบเปิดบ่อนการพนัน กล่าวว่า กรอบการทำงานของตนจะเน้นตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ครอบคลุมทั่วประเทศว่า มีพื้นใดมีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันทั้งตัวบุคคล และสถานที่ หากพบว่ามีใครที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่รัฐอื่นๆ รวมถึงนักการเมือง ก็ต้องเรียกเข้ามาสอบทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 15 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องก่อนหน้าที่ก็ต้องมาตรวจสอบด้วย
อย่างไรก็ตาม หากมีการเชิญใครเข้ามาให้ข้อมูลจะต้องขอมติจากคณะกรรมการชุดใหญ่ อย่างไรก็ตามจะมีการตรวจสอบบ่อนเก่า และบ่อนที่เปิดใหม่ โดยจะเน้นการทำงานในระยะยาว เช่นเดียวกับ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะอนุกรรมการเสนอแนะมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาการพนัน กล่าวว่า ในส่วนของคณะอนุกรรมการชุดตนนั้นจะเน้นไปที่การทำงานระยะยาว ส่วนข้อเสนอที่จะมีการเปิดบ่อนเสรีนั้น จะรับพิจารณาเป็นข้อเสนอแนะ แต่ระยะยาวนั้นจะต้องความเป็นไปได้อีกครั้ง เบื้อนต้นจะเน้นไปที่ปัญหาของบ่อนที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่มีผู้ที่มาร้องเรียน
ส่วน พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดี ดีเอสไอ เป็นประธานอนุกรรมการด้านการข่าว และสืบสวนเส้นทางการเงิน กล่าวว่า ด้านดีเอสไอ จะดูแลรับผิดชอบใน 2 ประเด็นคือ 1.ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มบุคคล ผู้ต้องหา ผู้ที่มีส่วนได้เสีย เจ้าของบ่อน รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง 2.ยึดอายัดทรัพย์เพื่อตัดวงจร และเป็นการยับยั้งการเปิดบ่อน ซึ่งการทำคดีของดีเอสไอจะต้องให้ได้ข้อมูลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้มากที่สุด และปัจจุบันดีเอสไอมีข้อมูล และมีข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงอยู่ระดับหนึ่ง เนื่องจากมีการตรวจสอบตามขั้นปกติอยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิป 2 ฝ่ายเคาะ“ซักฟอกรัฐบาล”16-19 ก.พ.
"คำนูณ" แฉ 8 จุดสำคัญล่องหนจากร่างกม.ตำรวจฉบับ “มีชัย”
ล็อกซักฟอก 4 วัน 16-19 โหวต 20 ก.พ. เป้าหลักถล่ม‘บิ๊กตู่’