เจาะลึก “อ๊อด มิยาบิ” เบื้องหลัง “คริสตัล-เอมเมอรัลด์ คลับ"

12 เม.ย. 2564 | 14:39 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2564 | 11:45 น.

เจาะลึก “อ๊อด มิยาบิ” เบื้องหลัง “คริสตัลคลับ” กับ “เอมเมอรัลด์คลับ” ต้อตอแพร่เชื้อโควิดระลอก 3 สื่อต่อสายคุย แต่อ้างว่าป่วย

จากประเด็นสั่งเด้งฟ้าผ่า ผู้กำกับ และ สารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ซึ่งดูเหมือนทุกครั้งที่มีปัญหาขึ้นในท้องที่ไหน ก็มักจะจบด้วยการสั่งย้ายไปช่วยราชการ เหมือนการ “เด้ง 5 เสือโรงพัก” 

แต่ประเด็นการดำเนินคดีและสืบหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง “คริสตัลคลับ” กับ "เอมเมอรัลด์ คลับ" สถานบันเทิงประเภท “เลานจ์” ระดับไฮเอนด์ ที่เปิดเกินเวลา แถมไม่มีใบอนุญาต ต้องสงสัยเป็นแหล่งแพร่โควิด ยังคงเดินหน้าต่อไป

และคนที่ยังเดินหน้าออกมาแฉอย่างต่อเนื่อง ก็คือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย และอดีตผู้ประกอบการสถานบริการรายใหญ่ของประเทศ โดยวันนี้ได้เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม เพิ่มเติมว่า เจ้าของของสถานบริการ 2 แห่งนี้คือ “เสี่ยอ๊อด” หรือชื่อในแวดวงเรียกว่า “อ๊อด มิยาบิ” ซึ่งมีชื่อเรียกที่พนักงานเรียกกันว่า “ปาป้าซัง” 

โดยมีข้อมูลว่า “อ๊อด มิยาบิ” หรือ “ปาป้าซัง” มีชื่อจริงว่า นายเกียรติพงษ์ คำต่าย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง คริสตัล และ เอมเมอรัลด์

                      

สำหรับเส้นทางของ “ปาป้าซัง”  รายนี้  ชูวิทย์ เล่าว่า เริ่มต้นจากการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ “มิยาบิ” และขยายเป็นบาร์ญี่ปุ่นชื่อเดียวกัน โดยจะรับเฉพาะแขกต่างชาติและระดับวีไอพี 

หลังจากนั้นได้ขยับเข้าสู่วงการสถานบริการแบบ “เลานจ์” ในชื่อ “คริสตัล เอ็กซคลูซีฟ คลับ” รับบทบาทหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทที่เปิดสำหรับเป็นผู้ประกอบกิจการเลานจ์ แต่ก็มี “พรรคพวก” จากหลากหลายวงการช่วยกันถือหุ้น

ชูวิทย์ ยังเล่าว่า เมื่อธุรกิจที่ “คริสตัล เอ็กซคลูซีฟ คลับ” รุ่งโรจน์ขึ้นมา “ปาป้าซัง” ก็มองเห็นช่องทางว่า สถานบริการแบบ “เลานจ์” ที่เน้นรับเฉพาะแขกวีไอพี ฟันกำไรอย่างงดงาม จึงตั้งบริษัทและขยายกิจการชื่อ “เอมเมอรัลด์ คลับ” ขึ้นมา

อีกประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งหลายคนตั้งคำถาม ก็คือ ทำไมคลับหรูทั้ง 2 แห่ง จึงไม่ขอใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิงให้ถูกกฎหมายเสีย  ประเด็นนี้ ชูวิทย์ ระบุว่า การไม่จดทะเบียนเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะไม่ต้องขึ้นทะเบียนว่าใครเป็นเจ้าของสถานบริการ  เมื่อถูกจับ ก็ส่งลูกน้องไปถูกดำเนินคดี หรือติดคุกแทน แต่หากจดทะเบียนเป็นสถานบริการ จะต้องมีชื่อเจ้าของตัวจริง รวมทั้งหุ้นส่วน  เมื่อถูกดำเนินคดีก็จะกลายเป็น “หนังเรื่องยาว”

 

นายชูวิทย์ เล่าต่อไปว่า การเปิดกิจการลักษณะนี้ จะต้องมีการ “เคลียร์” กับเจ้าหน้าที่หลายหน่วย ไม่ว่าจะเป็นตำรวจท้องที่ หรือเจ้าหน้าที่จากสังกัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เรียกง่ายๆ ว่า “จ่ายทุกระดับประทับใจ” ไม่ต่างจากการทำธุรกิจบ่อนการพนัน แต่การทำบ่อนพนันจะต้อง “เคลียร์” ในอัตราที่สูงกว่า


“ทีมข่าวอาชญากรรม” ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยัง “อ๊อด มิยาบิ” ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าว
 ปรากฏว่าเมื่อโทรไป มีคนรับสาย และบอกว่า ตัวเองชื่อ “อ๊อด” แต่ตอนนี้เกิดอาการไม่สบาย เนื่องจากเครียด จึงขอไม่ให้ข้อมูลใดๆ กับทีมข่าว 

ก่อนหน้านี้ “ทีมข่าว”ได้เคยโทรศัพท์ไปหา “เสี่ยอ๊อด” มาแล้วครั้งหนึ่ง  ครั้งนั้น “เสี่ยอ๊อด” ก็รับสาย และยอมรับว่าตนเองคือบุคคลตามที่เป็นข่าว แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลทุกเรื่องที่ นายชูวิทย์ ออกมาแฉ และไม่ขอใช้สิทธิ์พาดพิง ชี้แจงผ่านสื่อทุกแขนง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :