ผวาไฟ  ‘สหรัฐ-อิหร่าน’  เผาซํ้าตลาดอสังหา   

13 ม.ค. 2563 | 23:40 น.

บิ๊กดีเวลอปเปอร์ ผวาไฟขัดแย้ง สหรัฐฯ-อิหร่านส่อ ปะทุยาว  ซํ้าเติมสงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจโลกดิ่ง ตลาดอสังหาฯ ซึมยาวหลังถูกมรสุมรมหลายด้าน คนซื้อบ้านชะลอตัดสินใจ   

กูรูหลายสถาบันประเมินว่า ไฟรุนแรงระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน อาจจุดชนวนลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามตะวันออกกลางสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกซบเซา ภาคส่งออก การท่องเที่ยว ติดลบ  ที่น่าจับตาซึ่ง ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ในไทย จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้  ซํ้าเติมท่ามกลางมรสุมรุมเร้าเป็นทุนเดิม ทั้งสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ม็อบฮ่องกง ค่าบาทแข็งค่า เกณฑ์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือมาตรการแอลทีวี  สถาบันการเงินเข้มปฏิเสธสินเชื่อ กำลังซื้อหดหายทั้งคนไทยและลูกค้าชาวจีน ภาษีที่ดินเพิ่มภาระต้นทุนเข้ามา  อีกทั้งภัยแล้งที่มีผลต่อภาคการผลิต เมื่อเกิดไฟแห่งความตึงเครียดปะทุขึ้น จะฉุดรั้งให้เศรษฐกิจในประเทศทรุดตัวยิ่งขึ้น การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มที่มีกำลังซื้ออาจจะต้องชะลอออกไปเพื่อรอดูท่าที 

ทั้งนี้ นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการ บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระบุ กรณีสหรัฐฯ และอิหร่าน ประกาศชักธงรบต่อกัน กลายเป็นแรงกดดันใหม่สำหรับโลกใบนี้ โดยขณะนี้ทุกฝ่ายต่างภาวนาอย่าให้เกิดสงครามเช่นในอดีต เพราะหากมีสถานการณ์รุนแรงจะเป็นไฟลามทุ่งมายังเศรษฐกิจโลก ทุกประเทศแปรปรวน และจะส่งผลมายังเศรษฐกิจภายในของประเทศไทยด้วย

ทั้ง 2 ฝ่าย สาดนํ้าเข้าหากันอย่างรุนแรง ไม่มีลดราวาศอก เป็นจุดล่อแหลมให้เกิดสงครามตะวันออกกลาง ในฐานะนักธุรกิจ ย่อมคาดหวังให้มีตัวกลาง หรือ สหประชาชาติเร่งเข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะสถานการณ์การเมืองในประเทศไม่น่ากังวลเท่าภาพใหญ่ของโลก ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และความยากของการทำธุรกิจ

ขณะการเตรียมความพร้อมนายไชยยันต์ ระบุว่า ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  มองว่าต่างจัดทำแผนรับมือไว้แล้ว 

ผวาไฟ  ‘สหรัฐ-อิหร่าน’  เผาซํ้าตลาดอสังหา   

 

ด้านนายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ระบุ ธุรกิจอสังหาฯได้รับผลกระทบอย่างมากกับสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ส่งผลกระทบระยะยาวต่อกำลังซื้อที่วิตกจนต้องชะลอการตัดสินใจรอดูสถานการณ์ โดยเฉพาะ กลุ่มระดับบนที่เป็นความหวัง ขณะกลุ่มระดับกลาง-ล่าง  เพราะมีปัญหาด้านกำลังซื้อและถูกปฏิเสธสินเชื่อ ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะมีผลต่อราคานํ้ามันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนของการขนส่ง ภาคการผลิต การบริโภค  แรงงาน  สินค้าแพง   สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น มนุษย์เงินเดือนเสี่ยงต่อการตกงาน จึงเป็นเหตุให้เกิดชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ออมเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก่อน จนกว่าจะมั่นใจ ผลที่ตามมาตลาดอสังหาฯขายช้าลง       

ทางออกผู้ประกอบการต้องตั้งรับ โฟกัสการพัฒนาโครงการเจาะจงเฉพาะกลุ่ม ทำเลไหนมีซัพพลายมากต้องชะลอการตัดสินใจขึ้นโครงการ เน้นขึ้นโครงการจำนวนหน่วย

หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,539 วันที่ 12-15 มกราคม 2563