กรณีนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังซึ่งเป็นน้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตกเป็นข่าวฉาว จากคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังจากถูกหลอกให้จ่ายเงิน 20 ล้านบาท ให้กับคนภายในของสํานักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เพื่อหวังแลกกับการให้ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล โดยปัจจุบันมีนายบดินทร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายคนเล็ก นั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ได้สิทธิการเช่าที่ดินแปลงงามย่านชิดลม กรุงเทพฯ เมื่อปี 2560 นั้น
ล่าสุด "ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบ พบ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มีพอร์ตโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ิอยู่ระหว่างการขาย และพัฒนาหลายโครงการ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเซกเม้นท์ระดับกลาง-บนของตลาด จับกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ เช่น
-คอนโดมิเนียม "The stage เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์" มูลค่า 2,400 ล้านบาท
-คอนโดมิเนียม " เอสทีค ทองหล่อ" ระดับ Ultimate Luxury มูลค่า 4,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 9.49 ล้านบาท
-คอนโดมิเนียม "LAVIQ สุขุมวิท 57" มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ราคาห้องเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยวแบรนด์ " VIRANYA" ราคาเริ่มต้น 3.99-6 ล้าน
-บ้าน "เซนส์ สายไหม 56" ราคาเริ่ม 4.49 ล้านบาท
-ทาวน์โฮม "เพล็กซ์ เรสซิเดนซ์ เกษตร - นวมินทร์" ราคาเริ่ม 5.29 ล้านบาท
ขณะ ปี 2563 ไม่มีโครงการเปิดใหม่ หลังก่อนหน้า นายบดินทร์ เคยออกมาให้ข่าวว่า จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดโครงการใหม่ออกไปจากสถานการณ์โควิด-19 คือ โครงการทาวน์โฮม แบรนด์ สตอรี่ส์ จำนวน 200 ยูนิต โครงการบ้านเดี่ยว แบรนด์ วีรัณยา จำนวน 150 ยูนิต รวมทั้ง 2 โครงการมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท และโครงการบริเวณสุขาภิบาล 2 ภายใต้แบรนด์ เพล็กซ์ ที่เดิมมีแผนเปิดกลางปี 2563 จำนวน 227 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท
รวมถึงแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ย่านห้วยขวางอีก 1 โครงการ ซึ่งตามแผนจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ “เดอะ สเตจ” (The STAGE) ราคาขายประมาณ 100,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มทุนอสังหาฯระดับกลาง จากประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งมีแผนจะเปิดในไตรมาส 4 ปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ ยังชะลอแผนการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างไม่มีกำหนดอีกด้วย หลังจากก่อนหน้า อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อม และคาดจะสามารถเสนอขายหุ้นสามัญได้ในช่วงปี 2565 ซึ่งมีการเผยว่า จะเสริมความแข็งแกร่งในด้านสินทรัพย์ โดยจะนำสินทรัพย์จากกลุ่มไทยซัมมิทเข้ามาเสริมพอร์ต เช่น อาคารไทยซัมมิท บนถนนเพชรบุรี ซึ่งเป็นอาคารที่มีกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของตนเอง (Freehold) มูลค่า 2.9-3 พันล้านบาท และยังมีแผนนำอาคารสำนักงานในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มูลค่ากว่า 60 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นของกลุ่มไทยซัมมิท เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับสินทรัพย์ของบริษัท และทำให้บริษัทมีรายได้ที่เป็นรายได้ประจำ มาช่วยสร้างการเติบโตด้วย (ข้อมูล ณ ปี 2562)