ปฏิบัติการแปลง หนังสือแสดงสิทธิ์ประเภท “น.ส.3-น.ส.3ก” ให้เป็นโฉนด 3ล้านแปลง ภายใน5ปีหรืออย่างช้าไม่เกิน 10 ปีนับตั้งแต่ปีงบประมาณ ปี2565 ตามนโยบาย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) มอบกรมที่ดินในวาระครบรอบ 120 ปี วันที่ 17กุมภาพันธ์ 2564 หลังมีข้อถกเถียง กลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ระหว่างนายนิพนธ์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนด หลักเกณฑ์เงินกู้ดอกเบี้ยตํ่า (ซอฟต์โลน) โครงการผลิตภัณฑ์ ‘สินเชื่อมีที่มีเงิน’ ของธนาคารออมสินต้องใช้หลักทรัพย์คำ้ประกัน ประเภทโฉนดเท่านั้น
ปัญหาที่เกิดขึ้น กระทรวงมหาดไทยจึงจุดประกาย โครงการ “แปลง น.ส.3-น.ส.3 ก เป็นโฉนด” เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินให้กับผู้ถือครอง ชุบชีวิตความเป็นอยู่ให้ ดีขึ้นสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือใช้เป็นหลักทรัพย์คำ้ประกันกู้เงิน สร้างงานสร้างอาชีพได้อย่างมั่นคง ซึ่งสร้างความตื่นตัวไม่น้อยให้กับชุมชนทั้ง7หมื่นแห่ง
เนื่องจากที่ดินเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ผู้ครอบครองมีโอกาสแสดงสิทธิ์เปลี่ยนสถานะให้เกิดความมั่นคง ลดเหลื่อมลํ้าเข้าถึงสินเชื่อสถาบันการเงินได้ในระยะยาว แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกแปลงจะได้รับสิทธิ์ ต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ โดยรัฐมีข้อมูลตรวจสอบซึ่งการรังวัดสอบเขตล้วนมีระยะเวลา เนื่องจาก “น.ส.3” ไม่มีรูปแปลง ต้องให้เจ้าของที่ดินและแปลงข้างเคียง ตลอดเจ้าหน้าที่รัฐมาชี้แนวเขต
ขณะหลักฐานประเภท “น.ส.3ก” สามารถใช้เส้นทางลัด เปลี่ยนเป็นโฉนดได้ทันทีโดยไม่ต้องรังวัดสอบเขต โดยอาศัย อำนาจในมาตรา 58ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ปี 2497 มีสาระสำคัญที่ว่า มาตรา 58 ตรี เมื่อรัฐมนตรีเห็นสมควรจะให้มีการออกโฉนดที่ดินสำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ซึ่งใช้ระวางรูปถ่ายทางอากาศในท้องที่ใด ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดท้องที่นั้นและวันที่เริ่มดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
วิธีการ เจ้าพนักงานจะเขียนแผนที่ด้วยการเอารูปแปลง “น.ส.3ก” เปลี่ยนมาไว้ในระวางออกโฉนดที่ดิน โดยไม่ต้องรังวัดซึ่งกรมที่ดินอธิบายว่า มาตรา 58ตรี เปิดช่องให้ลดขั้นตอนค่อนข้างมาก เพราะที่ผ่านมามักมีปัญหา เจ้าของแปลงข้างเคียงไม่มาหรือไม่ให้ความร่วมมือ ลดระยะเวลาให้หน่วยงานรัฐมาชี้แนวเขต
แต่ทั้งนี้ หากออกเป็นโฉนดแล้ว สามารถกลับมารังวัดภายหลังได้ หากเกิดความผิดพลาดคลาดเคลื่อนสามารถ กันพื้นที่ ดังกล่าวออกได้ แต่ทั้งนี้ มองว่าเนื่องจากกรมที่ดินใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การออกโฉนดมีความผิดพลาดลดลงต่างจากในอดีต
ดังนั้นความฝันความหวังของประชาชนที่จะได้รับโฉนดที่ดินย่อมใกล้ความจริงมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการบอกดิน ซึ่งจะดำเนินการเป็นโปรเจ็กต์ๆไป โดยเริ่มตั้งแต่โครงการ “บอกดิน1” ซึ่งปี2563 ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจ กว่า 10,000 ราย
ขณะที่ในปีนี้ เปิดโครงการ “บอกดิน2” เปิดโอกาสให้ประชาชน ยื่นใช้สิทธิ์ขอออกโฉนด ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นี้ สำหรับความแม่นยำเป็นอีกทางลัดสามารถทำให้ทราบตำแหน่งว่าทับซ้อนเขตป่าหรือไม่ หากเจ้าของที่ดิน เข้าไป กดในตำแหน่งกลางแปลงที่ดินเพื่อหาพิกัด ขณะนี้มีผู้ถือครองที่ดินจำนวนไม่น้อยหลั่งไหลเข้ามาระบบ “บอกดิน2” เพราะนี่คือโอกาสทอง
ขณะใบแจ้งการครอบครองส.ค.1 กรมที่ดินต้องการยกเลิก แปลงเป็นโฉนดโดยแก้ประมวลกฎหมายที่ดินมาตั้งแต่ ปี2551 โดยให้เวลา 2 ปี คือภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ให้ยื่นออกโฉนดทั้งหมด และหลังจากวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 หากใครต้องการแปลงส.ค.1 เป็นโฉนดต้องรอศาลสั่ง ซึ่งการยกเลิก ส.ค.1 กรมที่ดินต้องการแก้ปัญหาส.ค.1 บิน-ส.ค.1 บวมจากการใช้ส.ค.1 เนื้อที่เล็กกว่า สวมสิทธิ์ออกโฉนดโดยมิชอบ บนที่ดินแปลงใหญ่กว่าหรือที่ดินรัฐอย่างไรก็ตามปัญหานี้ ลดลงไปค่อนข้างมาก
อนาคตอันใกล้ 5-10 ปี “ส.ค.1-น.ส.3-น.ส.3ก” จะเหลือเพียงตำนาน เพราะถูกล้างบาง กลายเป็นโฉนดทั้งหมดแล้ว!!!
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 8 ฉบับที่ 3,663 วันที่ 21 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2564