ความดื้อดึงของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน)หรือทอท.กับการผลักดันโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion)มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท ส่งกลิ่นโชย ถึงความผิดปกติมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ที่กลุ่มนักวิชาการและ 12 องค์กรวิชาชีพนำโดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ออกโรงคัดค้านจนเป็นที่มาของ“เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ” ไม่ได้ศึกษาเพียงแค่รอเวลาพัฒนาไปพร้อมกับอาคารด้านทิศตะวันออกและตะวันตกตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2553 แต่ที่จับพิรุธได้เพราะทอท.ยืนยันจะก่อสร้างเปิดให้บริการอาคารด้านทิศเหนือก่อนซึ่งนำมาซึ่งการคัดค้านขณะเดียวกันสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงานป.ป.ช.) มีข้อท้วงติงมาโดยตลอด เพราะ อาจเป็นไปได้ว่า เมื่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือแล้วเสร็จ ทอท.อาจไม่ก่อสร้างอาคาร ด้านตะวันออก-ตะวันตกและทิศใต้ ติดถนนบางนา-ตราดและทางด่วนบูรพาวถี ตามแผนแม่บทก็เป็นได้
ครม.ฟังเสียงป.ป.ช.
เหตุการณ์ดังกล่าวได้นำมาสู่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่23 มีนาคม 2564 รับทราบข้อเสนอ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและสำนักงานป.ช.ช.อาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือของท่าอากาศสุวรรณภูมิหรือเทอร์มินัล 2 ตัดแปะพร้อม เสนอ ทอท. เร่งก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกตามมติครม. เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2553 และอาคารด้านทิศตะวันตกในคราวเดียวกันด้วย เพื่อให้ท่าอากาศยานสุวรรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 75 ล้านคน ต่อปีขณะเดียวกันยังให้ทอท. ดำเนินการตามคำแนะนำของสภาพัฒน์ขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และทิศใต้ เพื่อรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน
ปลายทาง “เทอร์มินัล2”
ย้อนรอยจุดหมายปลายทาง เทอร์มินอล 2 ตัดแปะ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า กระทรวงคมนาคมต้องเพิ่มวงเงินลงทุนอีก 4.2 หมื่นล้านบาท เพื่อก่อสร้าง เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ มองว่าค่อนข้างสูง เกินจำเป็น อีกทั้งยังต้องเพิ่มงบประมาณ สร้างทางหลวงพิเศษ(มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ-ชลบุรี 2 ชั้น 3.75 หมื่นล้านบาท แก้ปัญหาจราจร ทั้งที่ฝั่งบางนา-ตราดมีความพร้อมอยู่แล้ว ที่สำคัญมากไปกว่านั้นโครงการนี้ยังไปสนับสนุน แผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ 732 ไร่ ในโครงการ ซิตี้แอร์พอร์ต ที่ทอท. มีแผนเปิดสัมปทาน คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ซึ่งจะมีนักลงทุนรายใหญ่รายเดิมรับสัมปทานและเทอร์มินัล2 ตัดแปะนี้ ยัง ไปเชื่อมโยงรถไฟความเร็วสูง ที่วิ่งไปสนามบินอู่ตะเภาอีกด้วยขณะปมปัญหารีรอสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนตะวันออกและตะวันตกเพราะต้องรื้อร้านอาหารซิตี้การ์เด้นท์ของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์และพื้นที่ ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าไร้คนขับรับส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน
ยันสร้างเทอร์มินัล 2
ทันทีที่ ออกนอกห้องประชุมครม. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้สัมภาษณ์ว่า ได้รายงานในที่ประชุม ครม.วันนี้ว่า จะดำเนินการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไปพร้อม กับส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ กระทรวงคมนาคมพร้อมรับฟังทุกความเห็น แต่มองว่าความเห็นของ ป.ป.ช.ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่กระทรวง จะดำเนินการ สะท้อนว่า กระทรวงคมนาคม เดิมเกมขัดแย้ง กับป.ป.ช., มติครม.ตลอดจน ข้อเสนอแนะสภาพัฒน์ มีความสุ่มเสี่ยงสูงถึงขั้นอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์สยาม อธิบาย กรณีป.ป.ช. มีข้อเสนอพิจารณาเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ป.ป.ช.มีข้อแนะนำให้ขยายเทอร์มินัล 1 ก่อน ในส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก เพราะปัจจุบันมีความพร้อมด้านการออกแบบแล้ว ในส่วนของกระทรวงฯ ได้รับฟังความเห็นดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงให้ ครม.รับฟังถึงความคืบหน้าที่ ทอท.อยู่ระหว่างดำเนินการทบทวนแผนพัฒนา ขอความเห็นจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ(ไออาต้า) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ)
ไม่สั่งทำตามป.ป.ช.
ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีคำสั่งให้ทำตามข้อเสนอ ป.ป.ช. เพียงแต่ให้เรารับฟังความเห็น ซึ่งเราก็ได้ชี้แจงไปว่าเรามีแผนจะสร้างเกตเวย์ด้านการบิน ที่รองรับผู้โดยสารรวมถึง 200 ล้านคนต่อปี โดย ทอท.ในฐานะผู้ลงทุน ก็มีความพร้อมที่จะทำทั้ง 3 โครงการในสุวรรณภูมิ ทั้งขยายอาคารด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก และอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ ปัจจุบันกระทรวงฯ มองว่ายังไม่ควรสรุปว่าจะดำเนินการสร้างส่วนใดก่อนหรือหลัง เพราะขั้นตอนขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างรอความเห็นจากไออาต้า และไอเคโอ ที่กำลังทบทวนโครงการ ความเหมาะสม และปริมาณผู้โดยสาร หากการทบทวนแล้วเสร็จ จึงจะเสนอไปยัง สภาพัฒน์ในการพิจารณาการลงทุน โครงการใดที่มีความพร้อมก่อน ก็จะดำเนินการจัดหาเอกชนก่อสร้างทันที เพราะ ทอท.มีงบประมาณเพียงพอที่จะลงทุน รวม 3 โครงการราว 6 หมื่นล้านบาท
ทอท.รอมติครม.
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและก่อสร้าง) ทอท. กล่าวว่า หลังจากป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือข้อเสนอแนะในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ต่อที่ประชุมครม. ขณะนี้ทอท.ยังไม่เห็นข้อสรุปจากมติที่ประชุมครม. คาดว่าจะส่งเรื่องมาที่ทอท.ประมาณ 5 วัน จากนั้นจะนำความคิดเห็นหน่วยงานต่างๆที่เสนอแนะมาประกอบเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกลางเดือนเมษายนนี้ และเสนอต่อสภาพัฒน์ และครม.ตามลำดับ
6 หมื่นล้าน 3 โครงการ
แผนลงทุนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมี 3 โครงการวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท 1.อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expqnsion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบ 7,830 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร 2. อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (West Expantion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบ 7,830 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร และ 3. ส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expantion) รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปีและขยายได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี งบ 41,260 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 348,000 ตารางเมตรเป็นต้น
นอกจากนี้ยังพัฒนารันเวย์ 3 เพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบิน จาก 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 90 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ที่มา : หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,665 วันที่ 28 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2564