นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะหน่วยงานร่วมดำเนินโครงการสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ด้วยการให้สิทธิสามารถขอพักชำระหนี้เงินต้นได้สูงสุด 6 เดือน ภายในไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยให้เริ่มพักชำระหนี้เงินต้น ตั้งแต่งวดถัดจากที่ได้รับอนุมัติ หรืองวดถัดจากที่ครบกำหนดเข้าร่วมมาตรการเดิม เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ ลดภาระค่าใช้จ่าย และให้มีสภาพคล่องสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตโควิด-19 (Covid-19) รวมถึง ป้องกันไม่ให้เกิดเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดได้รายได้ (NPLs) ส่วนลูกค้าท่านใดที่ไม่ต้องการเข้าร่วมมาตรการ สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ
ทั้งนี้ เปิดกว้างให้สิทธิพักชำระหนี้เงินต้นแก่ลูกค้ากองทุนประชารัฐต่างๆ ประกอบด้วย สินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 10,000 ล้านบาท สินเชื่อกองทุนคนตัวเล็ก วงเงิน 8,000 ล้านบาท และสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน วงเงิน 3,000 ล้าน โดยกำหนดคุณสมบัติ ต้องเป็นลูกค้าที่มีสถานะไม่เป็น NPLs หรือไม่อยู่ระหว่างถูกกองทุนดำเนินคดี ณ วันที่ 1 มีนาคม 2564
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่กลางปี 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม เคยมอบหมายให้ SME D Bank ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นให้ลูกค้ากองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มาแล้ว 2 ครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมแล้วประมาณ 3,300 ราย วงเงินประมาณ 6,400 ล้านบาท
นอกจากนี้ SME D Bank ยังดำเนินมาตรการด้านเติมทุนเสริมสภาพคล่อง ผ่านโครงการสินเชื่อพิเศษต่าง ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปีใน 2 ปีแรก ระยะผ่อนชำระนานสูงสุด 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ที่สำคัญ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน กำหนดระยะเวลายื่นกู้ถึง 30 มิถุนายน 2564 นี้ และสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ย นิติบุคคล 2.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และบุคคลธรรมดา 4.875%ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี กำหนดระยะเวลายื่นกู้ถึง 18 ธันวาคม 2564 นี้ เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :