การต่อสู้บนวิถีสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ในเมืองไทย ของ “คีรี กาญจนพาสน์” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) กลายเป็นซีรีส์ความยาวหลายตอน และหลายซีซัน นับตั้งแต่การเข้ามาบุกเบิกประมูล เมื่อปี 2535 หลังจากนั้นได้ก่อตั้ง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542
จนกระทั่งปี 2540 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้โครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสยํ่าแย่ ไปพร้อมๆ กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในโครงการธนาซิตี้ ย่านบางนา ส่งผลให้บริษัทธนายงฯซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบีทีเอส ต้องเข้าแผนฟื้นฟู บีทีเอสเอง ก็ประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบจำนวนผู้ใช้บริการบีทีเอสก็ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้ต้องแบกภาระดอกเบี้ยหลังแอ่นวันละ 10 ล้านบาท จนต้องเข้ากระบวนการแผนฟื้นฟูและปรับโครงสร้างหนี้
นักสู้คนนี้ ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการเคลียร์หนี้ก้อนโต จน ธนายง ได้ออกจากแผนฟื้นฟูในปี 2549 และบีทีเอส ได้ออกในปี 2551 หลังจากนั้น “คีรี” ก็ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ ให้ธนายงเข้าไปเทกโอเวอร์ บีทีเอสซี แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือบีทีเอส และหันมาโฟกัสธุรกิจรถไฟฟ้าอย่างจริงจัง
หลังผ่านวิกฤติ ฟ้าหลังฝนที่สวยงามก็ปรากฏ กับโครงการต่อเนื่อง ในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส และยังผนึกความร่วมมือกับอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่าง บริษัท แสนสิริฯจั้ดตั้ง บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้งวันฯ ลุยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ในปี 2557 ซึ่งจากการพูดคุยล่าสุด ยอดนักสู้ท่านนี้บอกเลยว่า ที่แนวรถไฟฟ้ามีอีกเยอะ แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ที่แน่ๆ คือ เป้าที่ตั้งไว้ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2565 จะพัฒนาทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่าการลงทุน 3 หมื่นล้านบาท คงไม่หนีไปไหน
ล่าสุด กว่านั้นในการหวนคืนบัลลังก์อสังหาริมทรัพย์ คือ การสานฝันเมื่อ 31 ปีที่แล้ว ที่ “คีีรี” บอกว่า ผมตั้งใจให้ธนาซิตี้เป็นเมืองที่สมบูรณ์ ให้ลูกบ้านมาอยู่อย่างมีความสุข เมืองที่นี่ต้องเป็นสีเขียว ผมจำได้ว่า 30 ปีที่แล้ว เราวางอินฟราสตรักเจอร์ไว้พร้อม ทั้งถนน ไฟฟ้า อสังหาริมทรัพย์ บ้าน สนามกอล์ฟ บนพื้นที่ 1,700 ไร่ ซึ่งทุกอย่างใช้เวลาในการทำให้เกิดความสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้
ความตั้งใจที่ว่า ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ จนกระทั่งล่าสุด กับการจับมือระหว่าง บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และพันธมิตร บริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ ลิมิเต็ด จากฮ่องกง กับการเปิดตัว “โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ” บนพื้นที่ 168 ไร่...นี่คือ อีกหนึ่งการเติมเต็มความฝันที่ “คีรี” บอกว่าเขาใช้เวลารอมากกว่า 31 ปี เลยทีเดียว กว่าฝันนี้จะเกิดขึ้นจริง
“วิชันของผม คือ ไปต่อเรื่อยๆ แต่อยู่ในกรอบของการลงทุน และกรอบของธุรกิจ” นี่คือ ความมุ่งมั่นของยอดนักสู้ท่านนี้ ซึ่งไม่เพียงแค่การสร้างโรงเรียนนานาชาติ แต่เขากำลังเติมเต็มพื้นที่อีก 200 ไร่ด้านหน้าธนาซิตี้ ที่เตรียมจะเนรมิตด้วยงบอีกไม่ตํ่ากว่า 10,000 ล้านบาท ทำให้เมืองธนาซิตี้แห่งนี้สมบูรณ์แบบมากยิิ่งขึ้น ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ในช่วงคิดคอนเซ็ปต์วางแผน ซึ่งจะทำให้ธนาซิตี้ สามารถสนองตอบการเติบโตของย่านบางนาได้เต็มที่ เมื่อรถไฟฟ้าแอลอาร์ที หรือรถไฟฟ้ารางเบา เกิดขึ้น
“1,700 ไร่ ในความฝัน 31 ปีที่แล้ว กว่าจะมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่เต็มที่ การที่เราจะสร้างเมืองๆ หนึ่ง ต้องใช้เวลา เรื่องสร้างง่าย ลงทุนง่าย แต่คนจะเข้ามาใช้จ่าย แอกทีฟขึ้นมาจริงๆ มันต้องใช้เวลา ส่วนที่จะสร้างเพิ่มนอกจากโรงเรียน สิ่งที่ยังขาดอยู่สำหรับเมือง จะมีอะไรได้บ้าง ศูนย์การค้า โรงเรียน กีฬา เอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือจะโรงพยาบาลก็ได้ แต่ปัญหาคือ โรงพยาบาล เราทำไม่เป็น...” ผู้บริหารบีทีเอสกรุ๊ปพูดพร้อมเสียงหัวเราะ
ไม่ว่าจะมีโครงการอะไรเกิดขึ้นต่อในส่วนของธนาซิตี้ น่าจะเป็นสิ่งที่สานฝันในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ของยอดนักสู้ผู้นี้ ส่วนเป้าหมายใหญ่ที่เขาวางไว้ และต้องเดินหน้าต่อ ก็คือ...ที่ตั้งใจเอาไว้ คือ อยากเห็นบีทีเอสกรุ๊ป เป็นบริษัทที่เข้าไปทำระบบขนส่งที่ดีที่สุด สิ่งที่เราทำจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และประชาชน เราไม่ได้พูดลอยๆ ทุกคนต้องดูนะ ว่าเราเข้าไปทำจริง
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,510 วันที่ 3 - 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562