อิหร่านโต้เดือดสหรัฐ ไปดูแลทหารติดโควิดจะดีกว่า

22 เม.ย. 2563 | 23:44 น.
อัปเดตล่าสุด :23 เม.ย. 2563 | 08:51 น.

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางพุ่งอีกครั้งเช่นเดียวกับราคาน้ำมันและดัชนีดาวโจนส์ที่ทะยานขึ้นตามๆ กัน โดยราคาน้ำมัน WTI ของสหรัฐฯพุ่งขึ้นกว่า 100% วานนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ทะยานกว่า 400 จุด หลังจากที่ผู้นำสหรัฐ ทวีตข้อความว่า เขาสั่งให้กองทัพเรือสหรัฐยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านได้ทุกลำหากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย

อิหร่านโต้เดือดสหรัฐ ไปดูแลทหารติดโควิดจะดีกว่า

น้ำมัน WTI ฟิวเจอร์ปรับตัวผันผวนก่อนหน้านี้ โดยสัญญางวดส่งมอบเดือนพ.ค. ทรุดตัวลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันจันทร์ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นกว่า 100% เมื่อวาน (22 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันครบกำหนดส่งมอบของสัญญาน้ำมันดังกล่าว ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 20% ทะลุระดับ 14 ดอลลาร์ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน

 

คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานว่า เรือจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน(IRGC) ได้แสดงท่าทีที่ยั่วยุและเป็นอันตราย ขณะขับเข้าใกล้เรือยามฝั่งของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย ทั้งนี้ รายงานของกองทัพเรือสหรัฐระบุว่า ขณะที่เรือสหรัฐจำนวน 6 ลำกำลังฝึกซ้อมปฏิบัติการในน่านน้ำสากลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรืออิหร่าน 11 ลำได้ขับเข้ามาใกล้เรือสหรัฐด้วยความเร็วสูง โดยลำที่เข้ามาใกล้ที่สุดนั้นห่างกันเพียง 9 เมตรเท่านั้น

อิหร่านโต้เดือดสหรัฐ ไปดูแลทหารติดโควิดจะดีกว่า

 

เรือยามฝั่งของอิหร่าน

 

ภายหลังการทวีตข้อความเดือดของประธานาธิบดีทรัมป์ โฆษกของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน หรือ IRGC ได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่า แทนที่สหรัฐฯจะมารังแกคนอื่นอย่างวันนี้ พวกชาวอเมริกันควรทุ่มเทความพยายามเพื่อช่วยเหลือสมาชิกกองทัพของตัวเองที่กำลังติดเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 จะดีกว่า

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดน้ำมันนั้น ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่วุฒิสภาสหรัฐให้การอนุมัติมาตรการวงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสนับสนุนให้เพิ่มการตรวจหาผู้ติดเชื้อดังกล่าว