“สายการบินต้องปรับตัวครั้งใหญ่” เดฟ คอลฮูน ซีอีโอ บ.โบอิ้ง

12 พ.ค. 2563 | 07:25 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2563 | 02:22 น.

ซีอีโอบริษัทโบอิ้ง ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอากาศยานของสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่าภายในสิ้นปีนี้ จำนวนผู้โดยสารสายการบินอาจจะกลับคืนมาเพียง 50% เท่านั้น และมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สายการบินบางรายจะไปไม่รอด

นายเดฟ คอลฮูน ซีอีโอของบริษัทโบอิ้ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในรายการ “ทูเดย์” ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เกี่ยวกับ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบิน ว่า เขาไม่คิดว่าในเดือนก.ย.นี้ สายการบินต่างๆ จะมีผู้โดยสารกลับมาใช้บริการแม้เพียง 1 ใน 4 ของจำนวนผู้โดยสารตามปกติ ซึ่งทำให้สายการบินต่างๆ จำเป็นต้องมีการปรับตัว เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

 

เดฟ คอลฮูน ซีอีโอของบริษัทโบอิ้ง

 

คาดสิ้นปีผู้โดยสารคืนมาแค่ครึ่ง

"การเดินทางจะยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ 100% หรือแม้แต่แค่เพียง 25% ก็ตาม และอาจต้องรอไปจนถึงปลายปีเพื่อให้ผู้โดยสารกลับคืนมา 50% เราจึงจะได้เห็นการปรับตัวของสายการบินต่างๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน"คอลฮูนกล่าว และว่าเมื่อเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลตามมาตรการเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่มีเป้าหมายช่วยประคองธุรกิจไม่ให้ต้องปลดพนักงานออกสิ้นสุดลง สายการบินก็จำเป็นต้องหาทางลดต้นทุนที่เป็นเงินเดือนพนักงานลงเพื่อความอยู่รอดหากว่าถึงตอนนั้นแล้วสถานการณ์ทางธุรกิจยังคงไม่ดีขึ้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอาจมีผู้ให้บริการรายใหญ่ในสหรัฐฯ ถึงกับต้องเลิกกิจการเลยหรือไม่ คอลฮูนกล่าวว่า "มีโอกาสเป็นไปได้มาก อาจมีบางอย่างเกิดขึ้นในเดือนก.ย.นี้" แต่เขาก็ไม่ได้ระบุชื่อสายการบินใดๆ  

 

คอลฮูนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอของโบอิ้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาท่ามกลางวิกฤติเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคและความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้งตระกูล 737 แม็กซ์  การให้สัมภาษณ์ของเขามีกำหนดการออกอากาศในวันอังคารนี้ (12 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ นายกอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกของโบอิ้ง ได้ออกมากล่าวอธิบายเกี่ยวกับความคิดเห็นของคอลฮูนว่า เขาเพียงพูดถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนโดยทั่วไป และไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่สายการบินใดๆ ทั้งสิ้น

การฟื้นตัวต้องใช้เวลา 3-5 ปี

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ซีอีโอของโบอิ้งเพิ่งให้สัมภาษณ์กับรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ว่า หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง อาจต้องใช้เวลาเป็นปีๆ สำหรับอุตสาหกรรมการบินที่จะกลับมาฟื้นตัว หรือราว 5 ปี จึงจะกลับมามีการเติบโตอีกครั้ง จากการพูดคุยกับลูกค้าซึ่งเป็นสายการบิน เริ่มจากสายการบินในสหรัฐฯ พบว่า ส่วนใหญ่พยายามจะดึงผู้โดยสารกลับมาให้ได้ประมาณ 30-50% ภายในสิ้นปีนี้ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้โดยสารหรือคนทั่วไปส่วนใหญ่จะให้ความไว้วางใจเกี่ยวกับความปลอดภัย(จากเชื้อไวรัส)ในการเดินทางด้วยเครื่องบินแล้วหรือไม่

 

“สายการบินต้องปรับตัวครั้งใหญ่” เดฟ คอลฮูน ซีอีโอ บ.โบอิ้ง

 

คอลฮูนยอมรับว่า อุตสาหกรรมการบินอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปีในการค่อยๆ “คลาน” กลับสู่ระดับปกติที่เคยทำได้ในปี 2562 ก่อนที่โควิด-19 จะอุบัติขึ้น (ในแง่จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบิน) หลังจากนั้นก็จะต้องใช้เวลาอีก 2 ปีในการสร้างการเติบโตในระดับที่เคยทำได้ในระยะเกือบๆ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา 

 

สำหรับโบอิ้งเองท่ามกลางวิกฤติครั้งนี้ จะเน้นการชำระหนี้เป็นอันดับหนึ่ง โดยจะให้ความสำคัญมากกว่าการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศระงับการจ่ายเงินปันผลเป็นการชั่วคราวแล้วจนกว่าผลประกอบการจะสามารถกลับคืนสู่ภาวะก่อนที่โควิด-19 จะอุบัติขึ้นและก่อนที่บริษัทจะพบกับวิกฤติศรัทธาเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคของเครื่องบินตระกูล 737 แม็กซ์

เมื่อครั้งเกิดเหตุผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินไปชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์คเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 สายการบินต้องใช้เวลาเกือบๆ 3 ปีในการฟื้นตัวสู่ระดับปกติ (ในแง่ปริมาณการจราจรทางอากาศซึ่งลดลง 43% หลังเกิดเหตุการณ์) คาดว่าในการฟื้นตัวฝ่าวิกฤติไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ก็อาจจะใช้เวลาพอๆกัน

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯภายใต้กฎหมายเยียวยา CARES Act วงเงินช่วยเหลือ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น เป็นวงเงินช่วยเหลือทั้งในรูปเงินกู้และเงินให้เปล่า ข่าวระบุว่าราว 90% จะตกอยู่กับ 6 สายการบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้แก่ อเมริกันแอร์ไลน์ส ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส เดลต้า เจ็ตบลู และเซาธ์เวสต์ ขณะเดียวกันก็มีบริษัทในแวดวงการบินยื่นขอความช่วยเหลือแล้วประมาณ 275 ราย 

 

สำหรับโบอิ้งเองนั้น ได้ระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ช่วยตัวเองไปแล้ว 25,000 ล้านดอลลาร์ จากนั้นจึงยื่นขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ในการรายงานผลประกอบการล่าสุดซึ่งเป็นผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ โบอิ้งขาดทุนอยู่ 641 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางทางอากาศแทบจะหยุดชะงักและก่อนหน้านั้นโบอิ้งยังมีปัญหาจากการที่เครื่องบินตระกูลแม็กซ์ถูกระงับขึ้นบินทั่วโลกอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดวิด แคลฮูน นายใหม่โบอิ้ง กับภารกิจฝ่าวิกฤตความเชื่อมั่น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

 

Boeing CEO predicts coronavirus pandemic will claim a major U.S. airline. He didn't name names

Boeing CEO: Could take 5 years for airlines to experience growth again