20 พฤษภาคม 2563 สื่อต่างประเทศรายงานว่า บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสินค้าด้านการดูแลสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดา เนื่องจากยอดขายลดลงมาก ท่ามกลางคดีฟ้องร้องหลายหมื่นคดีที่กล่าวหาว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวของบริษัทมีสารก่อมะเร็ง โดย บริษัท จอห์นสัน เปิดเผย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า การตัดสินใจยุติการขายแป้งเด็กในสหรัฐและแคนาดามีขึ้นในขณะที่บริษัทยกเลิกการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพผู้บริโภคประมาณ 100 รายการ และตั้งเป้าให้ความสำคัญมากกว่ากับผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูงท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี บริษัทจะยังคงจำหน่ายแป้งฝุ่นทาตัวจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดังกล่าวภายนอกสหรัฐและแคนาดาต่อไป ขณะที่ความต้องการแป้งเด็กทาตัวของบริษัทได้ลดลงในอเมริกาเหนือเช่นกัน โดยส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคและเป็นผลมาจากข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง
นายอีริค กอร์ดอน ศาสตราจารย์ของโรงเรียนธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน ระบุว่า ไม่ว่าแป้งเด็กจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหรือไม่นั้น ประชาชนก็ลังเลที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ขณะที่ คิมเบอร์ลี มอนแทกนิโน โฆษกของบริษัท จอห์นสันฯ ระบุว่า บริษัทไม่มีแผนการที่จะยุติการต่อสู้คดีใดๆ และจะยังคงดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ของบริษัท
ทั้งนี้ จากข้อมูล ระบุว่า บริษัท จอห์นสันฯ ถูกฟ้องร้องกล่าวหาว่า แป้งฝุ่นโรยตัวจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันของบริษัทเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้เป็นมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งเยื่อหุ้มปอด ประมาณ 19,400 คดี ซึ่งที่ผ่านมาชนะ 12 คดี แพ้ 15 คดี ขณะที่มีคดีที่ลูกขุนยังไม่สามารถตกลงกันได้อีก 7 คดี ส่วนคดีที่แพ้ทั้งหมดนั้นยังคงอยู่ในขั้นของการอุทธรณ์ หรือ ถูกยกคำร้องอุทธรณ์ให้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น อย่างไรก็ดี บริษัท จอห์นสันฯ และผลวิจัยทางการแพทย์ส่วนใหญ่ ยืนยันว่า แป้งเด็กโรยตัวดังกล่าวมีความปลอดภัย และไม่ได้ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง