thansettakij
ข่าว “ทรัมป์ติดโควิด” ทำสมาชิกครม. ยันคองเกรสนั่งไม่ติด ออกมาโชว์ผลการตรวจตามๆกัน

ข่าว “ทรัมป์ติดโควิด” ทำสมาชิกครม. ยันคองเกรสนั่งไม่ติด ออกมาโชว์ผลการตรวจตามๆกัน

03 ต.ค. 2563 | 00:05 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ต.ค. 2563 | 07:28 น.

ทั้งรัฐมนตรีและสมาชิกสภาฯ ที่ทำงานใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งออกมายอมรับว่า เขาและภรรยาติดเชื้อโควิดเข้าแล้วผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ต่างพากันไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19  มาดูกันว่า จะมีใครรอด-ใครติดบ้าง   

 

ข่าวใหญ่ที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจในเวลานี้ คือ การติดเชื้อโควิด-19 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ออกมาทวีตบอกกล่าวแก่สาธารณชนด้วยตัวเองเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ว่าทั้งเขาและนางเมลาเนีย ภริยา ได้รับการตรวจและผลออกมาแล้วว่าเป็นบวก  

สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์เริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อยหลังตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์เริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อยหลังตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19

ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐนั้น หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ รองประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งคือนายไมค์ เพนซ์ จะอยู่ในลำดับแรกที่เข้ารับตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี ส่วนลำดับที่ 2 คือประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งก็คือนางแนนซี เปโลซี จากพรรคเดโมแครต

 

ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางเปโลซีได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ว่า สภาคองเกรสมีการเตรียมแผนรองรับไว้แล้วในกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไร้ความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ โดยแผนดังกล่าวจะช่วยสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลจะยังคงบริหารประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

 

"นี่เป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะการที่เข้าไปอยู่ในฝูงชนโดยไม่มีการใส่หน้ากากอนามัย ถือเป็นการเชิญชวนให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น" นางเปโลซีให้ความเห็นส่วนตัว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน!ผลตรวจ ทรัมป์-ภรรยา ติดโควิด-19

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง! หลัง "ทรัมป์-ภรรยา" ติดเชื้อโควิด-19

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 34.7 ล้านราย ติดเชื้อเพิ่ม 292,651 ราย

 

ในส่วนของเธอเองนั้น เนื่องจากได้ทำงานใกล้ชิดกับประธานาธิบดีทรัมป์ ทั้งยังมีชื่อต้องสำรองตัวเป็นรักษาการประธานาธิบดีลำดับที่สองรองจากนายไมค์ เพนซ์ เธอจึงต้องไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นกัน โดยผลการตรวจของเธอจะมีการเปิดเผยในวันนี้

สื่อต่างประเทศระบุว่า ปธน.ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ได้เริ่มกระบวนการกักตัว และทำการรักษาในทันที สำนักข่าว NBC ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวจากทำเนียบขาวว่า ปธน.ทรัมป์ ซึ่งมีอายุ 74 ปี และมีน้ำหนักตัวมากเกินไป จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และตอนนี้เขาก็เริ่มแสดงอาการป่วยเล็กน้อยหลังติดเชื้อ

 

โจ ไบเดน และคามาลา แฮร์ริส คู่ท้าชิงของทรัมป์ ผลตรวจเป็นลบ โจ ไบเดน และคามาลา แฮร์ริส คู่ท้าชิงของทรัมป์ ผลตรวจเป็นลบ

ขณะที่นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ (สมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา) และเป็นคู่แข่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย. นี้ได้ส่งคำอวยพรไปยังปธน.ทรัมป์ ขอให้เขาหายเป็นปกติในเร็ววัน

         

"ผมและภรรยาขอส่งความปรารถนาดี และอวยพรให้ท่านประธานาธิบดีทรัมป์และภรรยาหายเป็นปกติในเร็ววัน โดยเราจะสวดภาวนาสำหรับสุขภาพและความปลอดภัยของท่านประธานาธิบดีและครอบครัว" ข้อความในทวิตเตอร์ของโจ ไบเดนระบุ

 

สื่อสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดนางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐคู่กับนายโจ ไบเดน ที่ลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดี เปิดเผยว่า นางแฮร์ริสก็เข้ารับการตรวจหาเชื้อเช่นกัน และผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่พบว่านางแฮร์ริสติดเชื้อแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ นางแฮร์ริส มีกำหนดเข้าทำการดีเบต โต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์กับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 7 ต.ค.ที่จะถึงนี้

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ (ซ้าย) และนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง (ขวา) ผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ (ซ้าย) และนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง (ขวา) ผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ

นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ผลตรวจเป็นลบเช่นกัน นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ผลตรวจเป็นลบเช่นกัน

ด้านนายเดวิน โอมอลลีย์ โฆษกของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ซึ่งตามกฎหมายสหรัฐ เขาจะต้องขึ้นมารักษาการแทนประธานาธิบดีทรัมป์กรณีที่ประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม  ได้ทวีตข้อความระบุว่า “ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่พบว่านายเพนซ์และภรรยาติดเชื้อแต่อย่างใด”

 

"ท่านรองประธานาธิบดีเพนซ์ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกวัน ตามที่เคยปฏิบัติมานานหลายเดือน และผลการตรวจในช่วงเช้าวันที่ 2 ต.ค.ไม่พบว่าท่านรองประธานาธิบดีเพนซ์และภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด โดยท่านรองประธานาธิบดียังคงมีสุขภาพที่แข็งแรง และท่านได้อวยพรให้ท่านประธานาธิบดีทรัมป์หายป่วยจากโควิดโดยเร็ว" ข้อความในทวิตเตอร์ของนายโอมอลลีย์ระบุ

 

คนดังรายอื่น ๆ ในคณะรัฐมนตรีสหรัฐ คือนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยแล้วเช่นกัน และผลออกมาเป็นลบ

 

นางโมนิกา โครว์ลีย์ โฆษกของนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง ระบุในทวิตเตอร์ว่า "ท่านรัฐมนตรีมนูชินได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกวันตามมาตรการที่ได้ปฏิบัติอย่างเป็นประจำ และผลการตรวจในเช้าววานนี้ (2 ต.ค.)ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

 

เช่นเดียวกับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อด้วยตนเองว่า เขาและภรรยาได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วเมื่อวันที่ 2 ต.ค. และผลออกมาเป็นลบ ทั้งนี้เขาได้ผ่านการตรวจหาเชื้อถึง 4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม เขากำลังทบทวนแผนการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าอาจจะต้องพับแผนหรือไม่

 

เดิมนั้นนายปอมเปโอมีกำหนดการเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกในวันที่ 4-8 ต.ค. นี้โดยจะเป็นการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น มองโกเลีย และเกาหลีใต้

 

มีผู้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ของผู้นำระดับโลกว่า ผู้นำอังกฤษและบราซิลนั้น ติดเชื้อโควิด-19 เพราะพวกเขาไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ในตอนแรก แต่หลังจากที่พวกเขาติดเชื้อโควิด ก็ได้กลับมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงน่าจับตามองว่า กรณีของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมักจะพูดและแสดงให้เห็นว่า โควิด-19 ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร อีกทั้งยังไม่ยอมสวมใส่หน้ากากป้องกันเมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชน การติดเชื้อโควิด-19 เองในครั้งนี้ จะทำให้ทรัมป์เปลี่ยนแปลงท่าทีไปจากเดิมหรือไม่