นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ ถือเป็นกระบวนการปกติของการแพร่ระบาด ทั้งนี้ การค้นพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษ ถือเป็นการบ่งชี้ว่าเครื่องมือใหม่ในการติดตามไวรัสดังกล่าวกำลังทำงานได้เป็นอย่างดี
"การที่เราสามารถติดตามไวรัสได้อย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ในแง่วิทยาศาสตร์แล้วถือเป็นพัฒนาการในเชิงบวกสำหรับระบบสาธารณสุขโลก นอกจากนี้ ประเทศต่าง ๆที่ทำหน้าที่ตรวจสอบดังกล่าว ยังสมควรได้รับคำชมเชย" นายแพทย์ไรอันกล่าว และว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงขึ้น หรือมีความร้ายแรงมากไปกว่าไวรัสสายพันธุ์ปัจจุบัน เพราะถึงแม้ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบจะสามารถแพร่เชื้อได้ไวกว่าสายพันธุ์เดิม แต่ก็ยังถือว่าช้า ถ้าเทียบกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสโรคคางทูม
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญต่างแสดงความเชื่อมั่นว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะสามารถต้านไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ทั่วโลกพากันตื่นตระหนกเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งทำให้มีการแพร่เชื้อรวดเร็วกว่าเดิมถึง 70%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั่วโลกแห่ระงับเที่ยวบินจากอังกฤษ หลังพบไวรัสโควิดกลายพันธุ์
อังกฤษ เรียกประชุมฉุกเฉิน รับมือวิกฤต “โควิดกลายพันธุ์”
ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ป่วนยุโรป 4 ประเทศปิดพรมแดนห้ามผู้เดินทางจากอังกฤษเข้า
ขณะนี้ สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติเป็นการฉุกเฉินสำหรับการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อิงค์ แล้ว โดยเริ่มมีการฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่อังกฤษ ที่มีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงวัยไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิน กุปตา จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า วัคซีนที่ได้รับการอนุมัติในขณะนี้จะให้การป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้หลายสายพันธุ์
"ผมมีความเชื่อว่าวัคซีนที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ นอกเหนือจากสายพันธุ์เดิมที่เราได้ทำการศึกษามานานหลายเดือน" ผศ. กุปตา กล่าว พร้อมย้ำว่า "วัคซีนเหล่านี้มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในการผลิตแอนติบอดีที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผมไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในระดับยีนของไวรัสจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนในระยะใกล้"
อย่างไรก็ดี เขากล่าวว่า ผู้ผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ ๆ ก็อาจจะต้องทำการปรับปรุงเพื่อให้รองรับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ต้องมีการปรับปรุงเช่นกัน
ทางด้านนายแพทย์วิเวก เมอร์ธี ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากนายโจ ไบเดน ให้เป็นว่าที่เจ้ากรมการแพทย์ทหารสหรัฐ ก็ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เช่นกัน
"ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าวัคซีนจะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ และยังไม่มีหลักฐานแสดงว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมีความร้ายแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิม"" นายแพทย์เมอร์ธียังกล่าวด้วยว่า สำหรับประชาชนทั่วไป การสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่างทางสังคม และการหมั่นล้างมือ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19