วัคซีนต้านโควิด-19  ของขวัญแด่มวลมนุษยชาติ (ตอน1)

29 ธ.ค. 2563 | 01:42 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ธ.ค. 2563 | 09:08 น.

รายงานพิเศษสองตอนจบ

 

ในปี 2563 โลกต้องเผชิญกับ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เกิด โรคระบาด “โควิด-19” มาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ๆ การถูกจู่โจมแบบตั้งตัวไม่ทันด้วยความที่เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ ไม่มียารักษาเฉพาะ รวมทั้งไม่มี วัคซีนป้องกันโรค ทำให้ “โควิด-19” แผลงฤทธิ์คร่าชีวิตประชากรโลกทั่วทุกทวีปไปกว่า 1.7 ล้านรายราวใบไม้ร่วง และมียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกมากกว่า  81.1 ล้านราย (ข้อมูล ณ 28 ธ.ค. 2563)

 

แต่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่ 2564 พร้อมด้วยข่าวดีที่เป็นความหวังว่า เรากำลังจะทิ้ง “โควิด-19” เอาไว้เบื้องหลัง เนื่องจากโลกมี วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติแล้วจากหลากหลายบริษัทผู้ผลิตและสถาบันวิจัย ปลายปี 2563 มีการอนุมัติใช้วัคซีนของผู้ผลิตมากกว่า 6 ราย อย่างเป็นทางการ พร้อม ๆ กับเริ่มมี โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนในหลายประเทศโดยมุ่งเน้นไปที่ผู้สูงวัยซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เปราะบางต่อเชื้อโควิด-19 มากที่สุด และกลุ่มบุคลากรการแพทย์-อาสาสมัครสาธารณสุขที่เป็น “นักรบด่านหน้า” ในการสู้รบปรบมือกับ “โควิด-19”

 

วัคซีนต้านโควิด-19  ของขวัญแด่มวลมนุษยชาติ (ตอน1)

กระบวนการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ที่สุดในโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว

จนถึง ณ สัปดาห์สุดท้ายของปี 2563 บลูมเบิร์ก สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า ใน 9 ประเทศทั่วโลก มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้วมากกว่า 4.4 ล้านโดส กล่าวได้ว่า กระบวนการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ที่สุดในโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวนมากที่สุด คือมีการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 1.94 ล้านโดส หลังจากที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งแรกให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในวันที่ 14 ธ.ค. 2563

 

ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปี (2563) สหรัฐจะทำการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ที่ร่วมวิจัยกับบริษัทบิออนเทคจากเยอรมนี อีกจำนวน 5.1 ล้านโดส และวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาจำนวน 6 ล้านโดส การจัดสรรควัคซีนของสหรัฐในช่วงต้น ๆนี้ เน้นไปที่พื้นที่ที่มีการติดเชื้อสูง เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศสหรัฐ (มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 2.1 ล้านราย) ก็จะได้รับการจัดสรรวัคซีนมากที่สุด

ทั้งนี้ ประเทศอื่น ๆ ที่ได้ทำการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชนในระดับมวลชนแล้วนั้น มีอีก 8 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ แคนาดา อิสราเอล บาห์เรน ชิลี และเม็กซิโก โดยจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการวิจัยและผลิตวัคซีนได้เองนั้น ได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้แก่ประชาชนมาตั้งแต่เดือนก.ค.-ส.ค. ก่อนที่จะมีการทดสอบในระยะสุดท้าย และจนถึงขณะนี้ ทั้งสองประเทศได้ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนแล้วมากกว่า 1.4 ล้านโดส

วัคซีนต้านโควิด-19  ของขวัญแด่มวลมนุษยชาติ (ตอน1)

วัคซีนต้านโควิด-19  ของขวัญแด่มวลมนุษยชาติ (ตอน1)

 

ประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีการเร่งรัดอนุมัติกันรวดเร็วกว่าวัคซีนป้องกันโรคไหน ๆในประวัติศาสตร์การแพทย์ของโลก แม้จะยังมีข้อกังขาแต่ก็คลี่คลายลงไปมากเมื่อมีผลการทดลองทางคลินิกในขั้นสุดท้ายของบริษัทผู้ผลิตออกมายืนยันมากขึ้น ทั้งนี้ ปกติแล้วการอนุมัติหรือรับรองวัคซีน ต้องใช้เวลาเป็นปี แต่วัคซีนต้านโควิด-19 สูตรแรกที่ได้รับการอนุมัติ ใช้เวลาราว 6 เดือนเท่านั้น โดยเป็นวัคซีนของจีนที่อนุมัติให้ใช้เฉพาะภายในกองทัพในราวเดือนมิ.ย. ต่อมาจีนได้จดสิทธิบัตรรับรองวัคซีนโควิด-19 ครั้งแรกในเดือนส.ค. กระบวนการที่เร่งรัดดังกล่าวทำให้หลายคนยังไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนมากนัก

 

ดังจะเห็นได้ว่าในหลายประเทศรวมทั้งในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด เมื่อมีการทำสำรวจความคิดเห็น กลับพบว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่ตอบว่า "ยังไม่มั่นใจ" และด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องการฉีดวัคซีน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จีนเผยโฉมวัคซีนโควิดชนิดใหม่ ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย

9 ประเทศทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิดแล้วมากกว่า 4.4 ล้านโดส

“อรุณรุ่ง” วิกฤตโควิดยุโรป อียูเริ่มการฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว