เคธี วูด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ค อินเวสท์เมนท์ แมเนจเมนท์ (ARK Investment Management) บริษัทลงทุนชื่อดังที่บริหารพอร์ตลงทุนจนสร้างผลตอบแทนในปีที่ผ่านมา (2563) สูงกว่า 100% ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านการให้สัมภาษณ์รายการบลูมเบิร์ก ทีวี วานนี้ (19 พ.ค.) ว่า เธอยังเชื่อในอนาคตของ บิตคอยน์ (Bitcoin) ว่าจะพลิกกลับมาพุ่งแรงจนแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์ได้อีก แม้ว่าขณะนี้ ราคาบิตคอยน์ จะดำดิ่งอยู่ในช่วงขาลงก็ตาม
นอกจากนี้ เธอยังเชื่อว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า กองทุนเพื่อการลงทุนในบิตคอยน์ หรือ Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติจากทางการสหรัฐในปีนี้
เคธีแสดงความเห็นดังกล่าวในช่วงที่ตลาดเงินคริปโต (คริปโตเคอร์เรนซี) หรือการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลกำลังอยู่ในภาวะลงแบบดิ่งอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าในตลาดหายไปถึง 500,000 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับมูลค่าเมื่อครั้งตลาดพีคสุด ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวเชิงลบต่าง ๆ ทั้งการทวีตของนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลา ที่แสดงท่าทีชัดเจนในการเปลี่ยนจุดยืนเกี่ยวกับบิตคอยน์ ไปจนถึงการที่รัฐบาลจีนประกาศคำสั่งระงับการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตลาดคริปโต ทำให้มีการเทขายอย่างตื่นตระหนกกระทั่งระบบซื้อขายบนแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง “คอยน์เบส” (Coinbase) ถึงกับล่มไปพักหนึ่ง (อ่านเพิ่มเติม: Coinbase ล่ม Bitcoin ดิ่ง เพราะอะไรนักลงทุนแห่เทขายเงินคริปโต )
อย่างไรก็ตาม เคธี กล่าวว่า เธอยังคงเชื่อมั่นในตลาดคริปโตอยู่ โดยเฉพาะบิตคอยน์ที่เวลานี้กำลังเผชิญบททดสอบสำคัญ และมีโอกาสที่ราคาจะลงสู่จุดต่ำสุดได้อีกหลายครั้ง แต่เธอเชื่อว่าในอนาคตบิตคอยน์จะมีแนวโน้มขยับราคาได้สูงถึง 500,000 ดอลลาร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเวลานี้ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อทำให้มีการเทขายหุ้นที่มีความอ่อนไหวสูง บิตคอยน์เองก็ถูกเทขายและราคาดำดิ่งลงเช่นกันจนหลุดระดับ 38,000 ดอลลาร์
อีกประเด็นที่หลายคนสนใจคือเรื่องการใช้พลังงานใน Ecosystem ของบิตคอยน์ โดยก่อนหน้านี้นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ได้ออกมาประกาศว่า เทสลาจะระงับการรับชำระเงินด้วยบิตคอยน์แล้ว เนื่องจากกระบวนการ “ขุดบิตคอยน์” ใช้พลังงานมากเกินไปและไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เคธีมองว่า ปัจจุบัน วงการคริปโตมีพัฒนาเชิงบวกในเรื่องการใช้พลังงานสะอาด-พลังงานหมุนเวียนใน Ecosystem แล้ว และในอนาคตหากมีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ก็อาจเปลี่ยนจุดยืนของนายอีลอน มัสก์ และทำให้เทสลา กลับเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมนี้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เคธีเตือนว่าแนวโน้มที่เธอมองนั้น เป็นเรื่องระยะยาว ซึ่งก่อนที่จะถึงจุดนั้น ทั้งบิตคอยน์และเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ อาจจะต้องผ่านความยากลำบากและต้องดิ่งลงอีกหลายครั้งหลายหน “เมื่อตลาดเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วน ๆ คุณจะบอกไม่ได้เลยว่า ราคามันจะต่ำลงไปได้อีกแค่ไหน” สำหรับตัวเธอเองมองว่า ตอนนี้เป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะซื้อ
ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เคธีเดินหน้ากวาดหุ้นของ Coinbase Global Inc. เจ้าของแพลตฟอร์ม “คอยน์เบส” ซึ่งอยู่ในช่วงจังหวะขาลงและมีราคาต่ำสุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาด เธอยังแสดงความเห็นอย่างมั่นใจว่า พร้อมเดินหน้าลงทุนในบิตคอยน์ต่อไป
นอกจากนี้ ยังคาดหมายว่า มีโอกาสมากขึ้นที่สหรัฐจะอนุมัติให้กองทุน Bitcoin ETF เข้าตลาดได้ภายในปีนี้เนื่องจากราคาของบิตคอยน์ที่ลดต่ำลง
เคธี เสริมอีกว่าในขณะนี้แม้ราคาของตลาดคริปโตจะตกต่ำลงอย่างมากจนนักลงทุนรายย่อยเริ่มทยอยขายซึ่งทำให้มูลค่าหายไปกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ดังกล่าวข้างต้น แต่นักลงทุนสถาบัน รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ยังไม่แสดงท่าทีว่าจะย้ายเงินออกจากตลาดแต่อย่างใด ซึ่งเคธีได้ให้ความเห็นว่า นักลงทุนสถาบันยังคงเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมคริปโตที่มีแนวโน้มเติบโตและน่าลงทุนอยู่
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า แม้แต่มอร์แกน สแตนลีย์ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของสหรัฐ ยังเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่ให้บริการลูกค้าด้านการบริหารความมั่งคั่งด้วยการเข้าถึงกองทุนบิตคอยน์ที่มีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน เทสลาเองที่ถือครองบิตคอยน์จำนวนมาก แม้นายอีลอน มัสก์ จะออกมาส่งสัญญาณเมื่อต้นสัปดาห์ว่า อาจจะขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีท่าทีว่าเทสลาจะเทขายบิตคอยน์ออกจากพอร์ตแต่อย่างใด
ข้อมูลอ้างอิง
Cathie Wood, Still a Bitcoin Believer, Sees It Going to $500,000
ข่าวที่เกี่ยวข้อง