สื่อจีนจัดหนักสหรัฐตุนวัคซีน 2,600 ล้านโดส = 1 ใน 3 ของประชากรโลก

20 พ.ค. 2564 | 23:52 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2564 | 07:27 น.

สื่อจีนปูด สหรัฐตุนวัคซีน 2.6 พันล้านโดส ซึ่งเพียงพอสำหรับฉีดให้ 1 ใน 3 ของประชากรโลกคนละโดส (โลกมีประชากรราว 7.9 พันล้านคน) แม้สหรัฐมีประชากรเพียง 4% ของโลกเท่านั้น นอกจากนี้ การประกาศมอบวัคซีนส่วนเกินให้กับประเทศอื่นๆ ในระยะหลังนั้น ก็ยังเป็นความริเริ่มที่ตามหลังรัสเซียและจีนอยู่มาก

โกลบัล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อใหญ่ภาคภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีน เปิดเผยว่า หลังจากที่ กักตุนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไว้ใช้ถึง 2.6 พันล้านโดส ซึ่งมากเกินพอแม้จะมีการฉีด 2 รอบให้กับประชากรสหรัฐที่มีกว่า 330 ล้านคน ทำให้มี วัคซีนเหลือใช้ จำนวนหลายล้านโดส และสุดท้าย สหรัฐอเมริกา ต้องยอมระบายวัคซีนเหลือใช้เหล่านี้ออกมาในรูปของการบริจาคจำนวน 80 ล้านโดสเมื่อเร็ว ๆนี้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศว่า สหรัฐจะส่งมอบวัคซีนจำนวน 20 ล้านโดสให้แก่ประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือไปจากวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 60 ล้านโดส ที่สหรัฐเคยประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าจะส่งมอบในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม “โกลบัล ไทม์ส” ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน ตั้งข้อสงสัยว่า วัคซีนบริจาคจากสหรัฐจะถึงมือประเทศกำลังพัฒนาที่มีความต้องการวัคซีนอย่างเร่งด่วนจริง ๆหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมพูดมากกว่าทำ และเชื่อว่าสหรัฐจะให้ความสำคัญกับประเทศประชาธิปไตยที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐโดยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ แลกกับข้อตกลงทางการเมืองหลังฉาก

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างอิงนายเอค เฟรย์มันน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐที่ระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายประเทศหมดหนทาง “คนในประเทศอื่นๆ เห็นจากพาดหัวข่าวว่าชาวอเมริกันสามารถถอดหน้ากาก(อนามัย) และกลับไปใช้ชีวิตตามปกติแล้ว แต่ยายของพวกเขายังป่วยอยู่เพราะไม่ได้รับวัคซีน"

นอกจากนี้ ยังระบุว่า สหรัฐยังไม่ได้มีการส่งออกวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แก่ประเทศอื่น ๆ ที่มีความต้องการอย่างเร่งด่วนแต่อย่างใด และตามหลังรัสเซียรวมทั้งจีนในการช่วยเหลือต่างประเทศรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

จีนส่งมอบวัคซีนให้เอธิโอเปีย

"สหรัฐได้สั่งวัคซีนมาเพียงพอที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากรของตนถึง 2 ครั้ง ขณะที่อีกหลายประเทศยังคงดิ้นรนเพื่อหาวัคซีนมาให้ได้" รายงานข่าวระบุ พร้อมเสริมว่า หลายประเทศที่ดิ้นรนหาวัคซีนจึงต้องหันไปพึ่งพามหาอำนาจของโลกรายอื่น ๆ เช่น จีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นสองประเทศที่สหรัฐกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมใช้ “การทูตวัคซีน” ซึ่งเป็นความพยายามแผ่อิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆ ผ่านโครงการให้ความช่วยเหลือทางด้านวัคซีน

สื่อใหญ่ของจีนยังอ้างอิงรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า สหรัฐมีวัคซีนโควิด-19 เหลือใช้จำนวนมาก ซึ่งจากการประเมินพบว่าในมลรัฐที่บริหารจัดการวัคซีนได้แย่ที่สุดนั้นมีวัคซีนเหลือใช้จำนวนรวมกันราว 14.1 ล้านโดส ซึ่งนับเป็นการสูญเสียโอกาสสำหรับชาติอื่น ๆ เนื่องจากบรรดาบริษัทผู้ผลิตวัคซีนต่างมีกำลังการผลิตที่จำกัด ยกตัวอย่างเช่น บริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค มีกำลังการผลิตวัคซีนโควิดราว 3 พันล้านโดสเท่านั้นในปีนี้ (2564) ขณะที่บริษัทโมเดอร์นา ประกาศเมื่อเดือนเม.ย.ว่า ปีหน้า (2565) น่าจะเพิ่มการผลิตได้สู่ระดับ 800-1,000 ล้านโดสเท่านั้น

ประเทศกำลงพัฒนายังคงต้องการวัคซีนจำนวนมาก

โกลบัล ไทม์ส ระบุว่า ขณะที่สหรัฐกล่าวหาว่าจีนกำลังสร้างอิทธิพลผ่านการทูตวัคซีนนั้น จีนไม่ได้เอาแต่พูดเหมือนสหรัฐ แต่ได้เริ่มผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและเป็นประเทศแรกที่ได้ส่งมอบวัคซีนให้นานาประเทศในภูมิภาคต่าง ๆรวมทั้งแอฟริกา ทั้งนี้ จีนได้เสนอมอบวัคซีนให้ประเทศอื่น ๆจำนวน 80 ประเทศ และมีการผลิตวัคซีนส่งออกแล้วให้กับ 50 ประเทศ นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงร่วมผลิตวัคซีนจีนในประเทศกำลังพัฒนาราว 10 ประเทศ ซึ่งความร่วมมือและความช่วยเหลือเหล่านี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชากรของจีนเองจำนวน 1.4 พันล้านคน ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศจีนชี้ว่า จำนวนวัคซีนที่จีนใช้เองภายในประเทศนั้น พอ ๆ กันกับจำนวนวัคซีนที่จีนเสนอให้แก่ประเทศอื่นๆไม่ว่าจะเป็นในรูปการบริจาคหรือการซื้อขาย

ข้อมูลอ้างอิง

 US’ new vaccine donation pledge receives cautious welcome in China, believed to aim at ‘weaponizing doses to contain China, Russia’

ข่าวที่เกี่ยวข้อง