“เซินกา”ทำเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหายกว่า 148 ล้าน

01 ส.ค. 2560 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2560 | 16:00 น.
กรมประมงเผยน้ำท่วม ทำเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเดือดร้อนแล้วกว่า 17 จังหวัด สร้างความเสียหายกว่า 148 ล้านบาท สั่งทุกหน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรยามฉุกเฉินตลอดเวลา
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงความเสียหายด้านการประมงจากพายุเซินกาที่ทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ว่า จากรายงานการสำรวจเบื้องต้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2560 จนถึงปัจจุบันมีเกษตรกรด้านการประมงประสบปัญหาจากเหตุอุทกภัยแล้ว 17 จังหวัด 104 อำเภอ ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง เพชรบูรณ์ กาฬสินธุ์ สกลนคร นครราชสีมา มหาสารคาม อุดรธานี บุรีรัมย์ นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี รวมพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 1.77 หมื่นไร่ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 2.47 หมื่นราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 147.7 ล้านบาท

ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร กรมประมงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเตรียมรับมือและเฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกร โดยเฉพาะระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของทางราชการ และหากเกิดผลกระทบหรือความเสียหายด้านประมงให้หน่วยงานในสังกัดกรมประมงเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ เรือตรวจการประมง อวน กระชัง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้รอช่วยเหลือเกษตรกรได้ทันทีที่ได้รับการร้องขอ เพื่อขนย้ายหรือจับสัตว์น้ำออกจำหน่าย นอกจากนี้ ยังจัดเจ้าหน้าที่ประมงไว้ประจำศูนย์ฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการแก่เกษตรกรอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กรมประมงมีแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจากเหตุอุทกภัยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกับกรมประมงเท่านั้น ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้  กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล ปูทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 10,920 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่,ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน(คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง) ไร่ละ 4,225 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่,กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล ปูทะเล หรือหอยทะเล ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี่ยงในลักษณะคล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 315 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใด คำนวณพื้นที่การเลี้ยงแล้วได้รับการช่วยเหลือคิดเป็นเงินต่ำกว่า 315 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 315 บาท