18 กันยายน 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาได้เห็นชอบการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของไวรัสโควิด19 กรอบวงเงิน 1.39 หมื่นล้าน สำหรับโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นการต่อยอดการดำเนินการเกษตรแปลงใหญ่ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการซื้อปัจจัยการผลิตและการขายสินค้า อีกทั้งภาครัฐสามารถให้การสนับสนุนองค์ความรู้และการใช้เทคโนโลยีได้ตรงกลุ่มอย่างเต็มที่
สำหรับโครงการยกระดับแปลงใหญ่นี้ มีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ 2.6 แสนราย เป็นจำนวนแปลง 5.25 พันแปลง คิดเป็นเป็นพื้นที่รวม 5 ล้านไร่ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมรวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆในการร่วมบริหารจัดการการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพ
เป้าหมายปลายทาง คือ การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมพลังงาน และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และยาที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
ในเรื่องการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยี นางสาวรัชดากล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯมีศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center: AIC) ภายในมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน การศึกษาในพื้นที่จังหวัดทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตร การประดิษฐ์นวัตกรรม รวมทั้งเครื่องจักรกลเกษตร และจัดอบรมเกษตรกร แหล่งเรียนรู้ และสนับสนุน Smart Farmer และ Young Smart Farmer
มากไปกว่านั้นการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่จะดำเนินการควบคู่ไปกับหลายหน่วยงาน เช่น ภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตและกาตลาดในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดูแลเรื่องการจำหน่ายสินค้าเกษตรตามนโยบาย “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ช่วยสนับสนุนแหล่งน้ำให้กับเกษตรกรแปลงใหญ่ โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้การสนับสนุนในส่วนของน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำสนับสนุนด้านการวางระบบน้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็ก มติครม. 15 ก.ย. 63 "แต่งตั้ง-โยกย้าย" ทุกกระทรวง-หน่วยงาน ได้ที่นี่
ด่วน! ครม.ขยายจ่ายเยียวยาเกษตรกร 4 กลุ่ม ถึง 15 ก.ย.63
รองโฆษก กล่าวด้วยว่า ณ ปัจจุบัน มีการทำเกษตรแปลงใหญ่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จำนวน 2.8 พันแปลง เกษตรกรแปลงใหญ่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จำนวน 1.33 แสนราย และแน่นอนว่าโครงการยกระดับแปลงใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณครั้งนี้ จะนำไปสู่จำนวนเกษตรกรและจำนวนแปลงที่ได้รับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้นอีกมาก ที่สำคัญ ประเมินว่าสามารถเพิ่มรายได้และลดต้นทุน คิดเป็นมูลค่าเพิ่มจำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท จากการนำเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ มีคุณภาพและมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมพลังงาน และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และยาที่มีมูลค่าเพิ่มสูง