ผลการเจรจา โครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ N1 ช่วงงามวงศ์วาน-มหาวิทยาลัยเกษตรฯ และ N2 ช่วงแยกเกษตร-นวมินทร์ ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากยังมีปัญหาในส่วนของบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรฯ และกทพ. มีข้อกำจัดเรื่องกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Infrastructure Fund) หรือเงินกองทุนรวม TFFIF ซึ่งมีภาระดอกเบี้ยปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีวงเงินกองทุนประมาณ 40,000 บาท และเตรียมเสนอเรื่องเพื่อแยกเส้นทางในการดำเนินโครงการเป็น 2 ส่วนจากบริเวณงามวงศ์วาน-มหาวิทยาลัยเกษตรฯ และจากบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรฯ-นวมินทร์ เข้าคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.)
ทั้งนี้โดยจะดำเนินการบริเวณที่สามารถก่อสร้างได้ก่อน ส่วนบริเวณที่ติดปัญหาในการเจรจาให้เว้นไว้ ซึ่งคล้ายกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายนครปฐม-ชะอำ ซึ่งบริเวณที่มีปัญหาอยู่ระหว่างการเจรจาจะศึกษาการดำเนินการก่อสร้างเบื้องต้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม ย้ำว่า ต้องมีการปรับแบบเป็นการก่อสร้างอุโมงค์ก็จะต้องใช้งบประมาณเพิ่ม 20,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องทำการศึกษาและหากเป็นไปได้มองว่าอยากให้ใช้แนวทางเดิมเนื่องจากจะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้หาก คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เห็นชอบก็สามารถเปิดประมูลการดำเนินโครงการได้ทันทีคาดว่าประมาณต้นปี 2564 นอกจากนี้ในส่วนของความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลนั้นขณะนี้ก็ได้ข้อสรุปตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ผ่านมารฟม.ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) โดยพัฒนาส่วนของรถไฟฟ้าร่วมกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอนทดแทน N1 และ N2 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เนื่องจากทั้ง 2 โครงการอยู่ในแนวเส้นทางเดียวกัน ล่าสุดคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติเห็นชอบให้รฟม.ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาออกแบบฐานรากตอม่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลแล้ว ขณะนี้รฟม.อยู่ระหว่างการออกแบบฐานรากตอม่อเพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลบริเวณตอน N2 (ช่วงแยกเกษตร-นวมินทร์ ) ระยะทาง 5.7 กิโลเมตร (กม.) ช่วงที่มีการทับซ้อนทางด่วนขั้นที่ 3 คาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยกทพ.จะใช้งบประมาณจาก กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ หลังจากนั้นจะดำเนินการส่งรายละเอียดการออกแบบฐานรากตอม่อให้กทพ.ดำเนินการต่อไป
ส่วนการศึกษาทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เบื้องต้นได้รับทราบจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แล้ว ขณะนี้สนข.อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมา รฟม.ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)
“รฟม.ยืนยันว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ ที่ผ่านมารฟม.ได้มีการประชุมร่วมกับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และกระทรวงคมนาคม แล้ว ซึ่งไม่ได้มีการคัดค้านในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล เพราะมก.เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและนักศึกษาในการเดินทาง แต่ติดปัญหาในการก่อสร้างทางด่วนที่ 3 มากกว่า ทางรฟม.เชื่อว่าสามารถดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลได้ตามปกติ ถึงแม้ว่าจะติดปัญหาการเจรจาด้านการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ก็ตาม”
ขณะ ด้านการเวนคืนโครงการฯ เบื้องต้นได้มีการสำรวจพื้นที่การเวนคืนที่ดินแล้ว โดยส่วนใหญ่แนวเส้นทางเวนคืนที่ดินบริเวณบริเวณทางขึ้น-ลง ของตำแหน่งแต่ละสถานี รวมทั้งบริเวณแยกเข้าถนนสุขาภิบาล1 ถนนนวมินทร์มุ่งตรงแยกลำสาลี ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าและอาคารจอดแล้วจร (Park and Ride) จะมีการเวนคืนที่ดินราว 10 ไร่ คาดว่าจะเปิดประมูลภายในปี 2566 หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2567
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ระยะทาง 22.1 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 4.8 หมื่นล้านบาท รูปแบบการลงทุนพีพีพี เน็ตคอส ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี จำนวน 20 สถานี โดยมีแนวเส้นทาง เริ่มจากศูนย์ราชการนนทบุรี งามวงศ์วาน 2 (ซอยอัคนี) งามวงศ์วาน 18 (จุฬาเกษม) ชินเขต บางเขน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประตูงามวงศ์วาน แยกเกษตร คลองบางบัว ประเสริฐมนูกิจ-ลาดปลาเค้า ประเสริฐมนูกิจ-เสนานิคม โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ต่างระดับฉลองรัช คลองลำเจียก นวลจันทร์ ประเสริฐมนูกิจ-นวมินทร์ โพธิ์แก้ว อินทรารักษ์ สวนนวมินทร์ภิรมย์ การเคหะแห่งชาติและสิ้นสุดที่ลำสาลี
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,617 วันที่ 11 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563