“เจโทร” ร่วมสนับสนุนการยกระดับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอีอีซี

03 ธ.ค. 2563 | 21:05 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2563 | 12:43 น.

จากผลการสำรวจที่ชี้ว่า ตลาดหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศไทยนั้นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 13 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน อันดับ 6 ในเอเชีย ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่มีแรงดึงดูดสูงเป็นพิเศษ ขณะที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์อันดับ 1 ของโลก ครองตลาดส่งออกหุ่นยนต์เกือบ 30%  

 

นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เพื่อช่วย ส่งเสริมและขยายตลาดอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ มุ่งตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 และช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและภาคบริการ โดยเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรมต่าง ๆ เจโทรจึงได้จัด โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และออโตเมชั่นผ่านเว็บไซต์ และ งานสัมมนา Thailand-Japan Collaboration on JETRO Robot Automation Project ที่กำลังจะมีขึ้นกลางเดือนธ.ค.นี้ 

 

โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ในการเป็นหน่วยงานกลางเชื่อมประสานความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่นให้กับผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังมีบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นเข้าร่วมโครงการหลายรายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท DENSO, FANUC, Kawasaki Heavy Industries, Mitsubishi Electric, NACHI-FUJIKOSHI และบริษัท YASKAWA

นายอัทสึชิ ทาเคทานิ และดร.ลัษมณ อรรถาพิช

“ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่มีแรงดึงดูดสูงเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นก็สูงเป็นอย่างมาก” ประธานเจโทรกล่าว พร้อมอธิบายรายละเอียดทั้ง 3 โครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อร่วมยกระดับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศไทย ได้แก่

 

(1) การจัดทำเว็บไซต์ https://robot-automation.eeco.or.th/ รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และออโตเมชั่น เพื่อแนะนำให้ผู้ประกอบการไทยรู้จัก โดยเจโทรได้คัดเลือกผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านต่าง ๆ เช่น การผลิตหุ่นยนต์, System Integrator, การผลิตเครื่องจักรอัตโนมัติกว่า 50 ประเภท จาก 38 บริษัท มารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ พร้อมข้อมูลด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นในการแก้ไขและพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

(2) การจัดงานสัมมนา “Thailand-Japan Collaboration on JETRO Robot Automation Project” เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปัจจุบันรวมถึงการพัฒนาบุคลากรในด้านที่เกี่ยวข้อง ในวันพุธที่ 16 ธ.ค. 2563 นี้  ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์ 2 ท่านและผู้ประกอบการชั้นนำด้านหุ่นยนต์ 15 ราย เข้าร่วม

 

และ (3) การแถลงผลสำรวจอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และออโตเมชั่น พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมงานเจรจาธุรกิจที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (2564)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงอุตสาหกรรมผนึก "เจโทร" ขยายผลอินดัสตรีบับเบิลไทย-ญี่ปุ่น

เจโทรเร่งจัดกิจกรรมกระตุ้นธุรกิจ มั่นใจ“ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองไทย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

"เจโทร" รับปาก ปักหลักลงทุน-ขยายธุรกิจในไทยระยะยาว

 

“ปัจจุบันตลาดความต้องการของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ โดยในปีที่ผ่านมา (2562) ตลาดโดยรวมมีมูลค่ากว่า 30,000ล้านดอลลาร์  ซึ่งตลาดที่มีการเติบโตสูงที่สุดคือ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการเติบโต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยประเภทของหุ่นยนต์ที่มีการเติบโตสูงสุด คือ service robots โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมการแพทย์” นายทาเคทานิ ประธานเจโทรกล่าว และว่า

 

ในประเทศไทย หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติส่วนใหญ่มักใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในภาพรวมจำนวนหุ่นยนต์ต่อจำนวนแรงงานของประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำ โดยโรงงานกว่า 85% ยังไม่มีการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้งาน ทำให้มีช่องว่างในการเติบโตในสัดส่วนที่สูง

 

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมการแพทย์ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีศักยภาพสูง ดังนั้น ความต้องการใช้ระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมดังกล่าว จึงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยลดต้นทุนด้านการผลิตและการบริการแล้ว ยังเป็นการยกระดับระบบมาตรฐานทั้งการผลิตและการบริการ จึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในภาพรวมได้

 

“ความร่วมมือระหว่างเจโทร และสกพอ. ในการจัดทำโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ผ่านเว็บไซต์ และงานสัมมนา Thailand-Japan Collaboration on JETRO Robot Automation Project ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยส่งเสริมให้มีการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ทั้งในภาคการผลิตและบริการ สนับสนุนการลงทุนด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลไทยผลักดันอยู่ ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ขยายตลาดของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ภายในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี” นายทาเคทานิระบุ

 

ทางด้าน ดร.ลัษมณ อรรถาพิช รองเลขาธิการสายการลงทุนและการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีหุ่นยนต์และออโตเมชั่นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น สกพอ. หวังว่าโครงการนี้จะสามารถพัฒนาและสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นในการพัฒนาเทคโนโลยี โดย สกพอ.พร้อมจะสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และออโตเมชั่นในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี