นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1(2561-2567) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวว่า ปัจจุบันสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้พิจารณารายละเอียดโครงการและเห็นชอบ ให้ทอท.ไปออกแบบรายละเอียดโครงการแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 15,818 ล้านบาท โดยทอท.จะลงทุนเองทั้งหมด ส่วนระยะเวลาการออกแบบน่าจะใช้เวลา ราว 1ปี ตั้งเป้าที่จะนำเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในเดือน ส.ค. ปี65 หากผ่านการพิจารณาจะเปิดประมูลก่อสร้างปลายปี 65 และได้ตัวผู้รับเหมาต้นปี66 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีครึ่ง สามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 68
สำหรับการขยายท่าอากาศยานเชียงใหม่ระยะที่1 ประกอบด้วย 1.งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ แห่งที่ 2 2.การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังเดิม เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ 3. ก่อสร้างทางขับเส้นใหม่ และปรับปรุงขยายลานจอดอากาศยาน 4.ปรับปรุงระบบถนนภายในท่าอากาศยาน 5.ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค และ6. ปรับปรุงอาคารสำนักงาน ทั้งนี้เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จท่าอากาศยานเชียงใหม่จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้อีก 8.5 ล้านคน จากเดิม รองรับได้ 8 ล้านคน รวม เป็นรองรับได้รวมทั้งสิ้น 16.5 ล้านคน
ขณะเดียวกันในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ปริมาณผู้โดยสารของสนามบินลดลงมาก ดังนั้น ทอท.จึงเร่งดำเนินโครงการ ขยายสนามบินเชียงใหม่ ระยะที่ 1 เพื่อแก้ปัญหาการแออัด โดยจะมีการสร้างเทอร์มินัลแห่งที่ 2 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกเกือบเท่าตัว คาดว่าราวปี 67 ปริมาณผู้โดยสารของสนามบินจะกลับมาเป็นปกติเท่ากับช่วง ปี62 ซึ่งก็จะสอดรับและใกล้เคียงกับการเปิดให้บริการเทอร์มินัลแห่งที่ 2 ในช่วงกลางปี68 พอดี
ทั้งนี้ ทอท. ยังมีแผนที่จะพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 2 ด้วย ระหว่างปี 2564-2568 โดยมีเนื้องานสำคัญ 3รายการคือ 1.การขยายและปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร 2.ขยายบานจอดอากาศยาน และขยายถนนภายใน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง