นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัทฯ กับ บริษัท อาร์พีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ RPCG มีข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการระหว่างกัน สรุปได้ดังนี้
1. ข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดำที่ 114/2552 หมายเลขแดงที่ 23/2559 RPCG เรียกร้องให้ ปตท. จ่ายค่าเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาโดยไม่มีสิทธิ ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากมีคำชี้ขาดให้ ปตท. จ่ายค่าเสียหายในอัตรา 390,000,000 บาท ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2555 จนถึงวันที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด (25 มี.ค.2559) คิดเป็นเงินประมาณ 1,600 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตรา 7% ต่อปี ของยอดเงินค่าเสียหายที่ได้จากการคำนวณข้างต้น นับตั้งแต่วันที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดจนถึงวันที่ ปตท. ชำระเงินครบถ้วน และต่อมา ปตท. ยื่นคำร้องต่อขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลแพ่ง และ RPCG ยื่นคำร้องขอให้บังคับตามคำชี้ขาดต่อศาลแพ่ง และเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2562 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ปตท. จึงใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งต่อศาลฎีกา
2. ข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ หมายเลขดำที่ 78/2555 หมายเลขแดงที่ 37/2560 ปตท. เรียกร้องค่าผลิตภัณฑ์ค้างชำระจาก RPCG ซึ่งคณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดโดยมติเอกฉันท์ให้ RPCG จ่ายเงินจำนวน 1,555,275,403.59 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 9.375% ต่อปี คิดจากต้นเงินจำนวน 1,518,108,737.16 บาท นับถัดจากวันยื่นคำเสนอข้อพิพาท (18 พ.ค.2555) จนกว่าจะชำระเสร็จ และต่อมา ปดท. ยื่นคำร้องขอบังคับตามคำชี้ ขาดต่อศาลแพ่ง และ RPCG ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลแพ่ง และเมื่อวันที่ 29 มี.ค.2562 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของกณะอนุญาโตตุลาการ ปตท. จึงใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลแพ่งต่อศาลฎีกา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง