นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 5 เดือนของปี 2564 (มกราคม-พฤษภาคม) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.4% โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ที่ลดลง 58.9% สำหรับการใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 2% แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ กลุ่มดีเซลลดลง 0.5% น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น ละ 19.5% น้ำมันก๊าดลดลง 1.9% LPG เพิ่มขึ้น 8.2% และ NGV ลดลง 20.3%
การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.8 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 2%) อย่างไรก็ตาม ปริมาณดังกล่าวยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ พบว่าปริมาณการใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 29.1 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น 2.3%) โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ 95 ที่เพิ่มขึ้นจาก 13.6 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 15.2 ล้านลิตร/วัน ในขณะที่การใช้น้ำมันเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 0.7 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 10.9%)
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนพฤษภาคม 2564 พบว่าการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 26.0 ล้านลิตร/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ 29.9 ล้านลิตร/วัน) (ลดลง 12.9%) โดยเป็นการลดลงของทุกชนิดน้ำมัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ในขณะที่จำนวนการได้รับวัคซีนยังอยู่ในระดับต่ำ (ตัวเลขสะสมตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 – 31 พฤษภาคม 2564 เข็มที่ 1 อยู่ที่ 2,539,491 ราย และเข็มที่ 2 อยู่ที่ 1,125,368 ราย ประกอบกับมาตรการควบคุมของภาครัฐ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนและทำงานแบบ Work from home จึงส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 65.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย (ลดลง 0.5%) สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 38.8 ล้านลิตร/วัน (ลดลง 18.7%) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.6 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.1 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.7 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 58.9%) เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยเครื่องบิน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉพาะเดือนพฤษภาคม 2564 พบว่า การใช้ลดลงจาก 5.6 ล้านลิตร/วัน ในเดือนเมษายน 2564 มาอยู่ที่ 4.0 ล้านลิตร/วัน สอดคล้องกับการใช้กลุ่มเบนซินในเดือนพฤษภาคม 2564 ที่หดตัวลง เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19
การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 16.3 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 8.2%) โดยปริมาณการใช้ในภาคปิโตรเคมีอยู่ที่ 7.0 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 16.9%) ภาคอุตสาหกรรมมีการใช้อยู่ที่ 1.9 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 11.7%) และภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 5.7 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 5%) อย่างไรก็ตาม การใช้ในภาคขนส่งลดลงมาอยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน (ลดลง 12%)
การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 20.3%) โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถ NGV ที่ลดลง
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 919,073 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 0.6%) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 878,258 บาร์เรล/วัน (ลดลง 0.04%)
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 51,306 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 22.1%) เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้น สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมา อยู่ที่ 40,814 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น 18%) คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 2,468 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 53%)
การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ไบโอดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 179,024 บาร์เรล/วัน (ลดลง 13%) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 11,114 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 22.3%)