thansettakij
กระทรวงอุตฯฟันบ.หัวจง ข้อหาปล่อยน้ำเสีย-ลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง

กระทรวงอุตฯฟันบ.หัวจง ข้อหาปล่อยน้ำเสีย-ลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง

21 มี.ค. 2568 | 02:43 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2568 | 02:43 น.

กระทรวงอุตสาหกรรมสั่งฟันบริษัท หัวจง จ.สมุทรสาคร หลังพบปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน เผยจากการตรสสบพบเชื่อมโยงลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการส่งทีมตรวจการณ์กระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท หัวจง อุตสาหกรรม จำกัด เนื่องจากมีข้อมูลที่ซัดทอดมายังบริษัทฯ ว่าเป็นโรงงานที่นำฝุ่นแดงเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตมาใช้เป็นวัตถุดิบ 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบการประกอบกิจการบางส่วนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ไม่มีเอกสารตรวจความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ระบบกำจัดมลพิษอากาศไม่มีประสิทธิภาพ 

และพบการลักลอบปล่อยน้ำเสียจากกระบวนการผลิตออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ผ่านระบบบำบัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียง

กระทรวงอุตฯฟันบ.หัวจง ข้อหาปล่อยน้ำเสีย-ลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง กระทรวงอุตฯฟันบ.หัวจง ข้อหาปล่อยน้ำเสีย-ลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวมาจากการที่กระทรวงฯได้รับข้อมูลมีขบวนการลักลอบนำเข้าฝุ่นแดง มาหลอมเพื่อส่งออกต่างประเทศ ซึ่งฝุ่นแดงเข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นของเสียเคมีวัตถุตามบัญชี 5.2 ของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 รวมทั้งเข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซล จากข้อมูลพบเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องหลายจังหวัด

โดยเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สั่งการให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการในส่วนการผลิตหลักทันที และสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต พร้อมดำเนินคดีบริษัทและกรรมการบริษัท

อย่างไรก็ดี จากข้อเท็จจริงและการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาความเชื่อมโยงของผู้ที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าฝุ่นแดงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งจังหวัดปทุมธานี ชลบุรี ระยอง และสมุทรสาคร ได้สั่งขยายผลและหาความเชื่อมโยงผู้กระทำผิดเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อหยุดขบวนการนำเข้าฝุ่นแดงโดยไม่ได้รับอนุญาต แฝงตัวเป็นผลิตภัณฑ์ส่งขายต่างประเทศ ทิ้งภาระการจัดการมลพิษไว้ในประเทศไทย 

ซึ่งจากนี้จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการสกัดและเฝ้าระวังการลักลอบหรือสำแดงเท็จเพื่อนำเข้าของเสียที่ห้ามนำเข้าหรือต้องขออนุญาตก่อนนำเข้ามาในประเทศ